"ดองกิ" ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ๋จากญี่ปุ่น ผนึกเครือสหพัฒน์ (SAHA GROUP) และบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (TOAVH) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือกันเป็นพันธมิตรร่วมทุนในการจำหน่ายสินค้าอาหารและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น ตอกย้ำความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด" และปรับโฉมโลโก้ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เตรียมรับการขยาย 20 สาขาทั่วประเทศในปี 68 และพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตในเอเชีย
ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น PPRMTH 60%, SAHA GROUP 22% และ TOAVH 18%
นายโยซูเกะ ชิมานุกิ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกของห้างดองกิในประเทศไทยขณะนี้อยู่ในระดับไม่เกิน 10% แต่เชื่อมั่นว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากรูปแบบธุรกิจมีความเฉพาะเจาะจงยากต่อการเลียนแบบ ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
รวมทั้ง ดองกิ อยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกและมองหาสถานที่ที่ตอบโจทย์กับการเปิดสาขาใหม่ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และ ระยอง รวมถึงพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร หากมีห้างสรรพสินค้าใดที่ตอบโจทย์ในการขยายสาขาทางเราก็จะพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งปัจจุบันคาดว่าจะขยายสาขาใหม่ 2 สาขาภายในปีหน้า และในอีก 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าในการขยายสาขาไว้ที่จำนวน 20 สาขา โดยคาดว่าจะเป็นการขยายสาขาในนามของ ดอง ดอง ดองกิ จำนวน 15 สาขา และเปิดธุรกิจรูปแบบใหม่อีก 5 สาขาในลำดับต่อไป
นายชิมานุกิ กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวไทยไม่สามารถเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตและการใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ลดการใช้จ่ายสินค้าที่ฟุ่มเฟือย ทั้งสินค้าเพื่อบริโภคและอุปโภค
แต่ในทางกลับกันธุรกิจการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราจึงพัฒนาธุรกิจของเราให้ตอบโจทย์กับลูกค้ามากขึ้น โดยรักษาคุณภาพอาหารที่ดีราคาถูก ส่งตรงความอร่อยถึงมือลูกค้าด้วยความห่วงใยและใส่ใจต่อความปลอดภัย ซึ่งสินค้าขายดี 5 อันดับแรก ได้แก่ มันหวาน ซูชิ ขนมปังคิวามิ อิจิรันราเม็ง และพรมดินเบา (แผ่นเช็ดเท้า)ของแบรนด์ Jonetsu Kakaku (เฮาส์แบรนด์)
นอกจากนี้ ทางดองกิยังได้จัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดสูงสุด 20% ตลอดเดือน ต.ค.นี้สำหรับสินค้าประเภทซูชิ และยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย และนอกจากนี้ดองกิยังได้สร้างสีสันในการช้อปปิ้งให้มีบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแบบครบวงจร ตลอดจนสินค้าและบริการ เพื่อรับมือในช่วงนิวนอร์มอลเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ และยังเป็นการแทนคำขอบคุณ รวมทั้งคืนกำไรให้ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดอีกด้วย
หลังจากเปลี่ยนชื่อและโลโก้อย่างเป็นทางการแล้ว บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงมีความเชื่อมั่น พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่ดี มีคุณภาพที่สุดตลอดไป