นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์โดยรวมเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น หากเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เพราะการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีการควบคุมได้ดี ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น ขณะที่บริษัทฯยังคงเดินหน้ารับรู้รายได้การขายไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์ม ประเทศเวียดนาม และมองโกเลีย รวม 55 เมกะวัตต์
ตลอดจนโรงไฟฟ้าซึ่งเปิดดำเนินการระหว่างปี 2561 ทั้งในไทยและญี่ปุ่นรับรู้รายได้เต็มปี รวมถึงในไตรมาส 2/63 ยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มจากโครงการ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ เพิ่มเติม ส่งผลให้ปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในมือรวม 142 เมกะวัตต์
"ปีนี้บริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นหากเทียบกับปีก่อน ดังนั้นคาดว่าจะช่วยสนับสนุนผลงานทำสถิติสูงสุดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาโครงการในอนาคต ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชน ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะเดินหน้ายื่นประมูล ส่วนโครงการในต่างประเทศ เช่น ประเทศเวียดนาม โครงการโรงไฟฟ้าขนาด 40 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนในปลายปีนี้ รวมทั้งยังมีการศึกษาการลงทุนในโครงการในเมียนมา และมาเลเซียอีกด้วย " นายวรุตม์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาโครงการใหม่ มาเติมในพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดมาตลอด ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯมีเป้าหมายต้องการมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ ภายใน 3-5 ปี ข้างหน้า