นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) และประธานกรรมการ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ไทยสมายล์ กลับมาทำการบินเส้นทางในประเทศได้ประมาณ 60-70% หลังจากคลายล็อกจากสถานการณ์โควิด-19 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป็นสายการบินที่ตรงเวลา ได้มาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิส จึงเป็นหนึ่งในหน่วยงานสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทในเครือการบินไทย
นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า ไทยสมายล์ได้ทำการศึกษาและเดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนขยายเส้นทางบินอีก 4 เส้นทางในประเทศ ภายในไตรมาส 4 นี้ อาทิ สุวรรณภูมิ-น่าน สุวรรณภูมิ- นครพนม และเส้นทางข้ามภาค นครศรีธรรมราช-เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช-อุดรธานี
ไทยสมายล์ ประเมินสถานการณ์ภายหลังจากกลับมาเปิดบินตั้งแต่ 1 มิ.ย.63 ปรากฏว่า จำนวนผู้โดยสารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราเล็งเห็นโอกาสสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ อาทิ ผู้โดยสารวัยเกษียณ โดยมอบส่วนลดบัตรโดยสาร พร้อมฟรีประกันภัยและประกันโควิด-19 เมื่อเดินทางตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธ.ค.63 อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าภาครัฐและเอกชน ที่ไทยสมายล์ให้สิทธิพิเศษมากมาย เช่น ช่องทางเช็คอินพิเศษ น้ำหนักสัมภาระ และการปรับเปลี่ยนการเดินทางต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
ล่าสุด ไทยสมายล์ได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชีย (Best Regional Airline ? Asia) เป็นครั้งที่ 3 และรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย (Best Airline Thailand) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ (Tripadvisor Travellers? Choice Airline Awards) ประจำปี 2563 นอกจากความเป็นเลิศด้านบริการแล้ว การบินไทยและไทยสมายล์เป็น 2 สายการบินแรกของประเทศไทยที่ได้รับมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัย ด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration: SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นและช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยให้แก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง
ปัจจุบันไทยสมายล์ให้บริการกว่า 37 เที่ยวบินต่อวัน ใน 11 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นราธิวาส กระบี่ และนครศรีธรรมราช