นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้กลับไปใช้เกณฑ์ธุรกรรมการขายชอร์ตปกติ (ชอร์ตเซล) แบบ Zero Plus Tick (ใช้ราคาที่สูงกว่าหรือเท่ากับราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย) จากเดิมใช้เกณฑ์ชั่วคราวแบบ Uptick (ใช้ราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 นั้น โดยช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเฝ้าติดตามมาโดยตลอด ซึ่งพบว่าธุรกรรมการทำชอร์ตเซลของนักลงทุนไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่มีการใช้เกณฑ์ชั่วคราวในช่วงเดือนมี.ค.63 อยู่ที่ระดับ 4-5% จากเดิมที่อยู่ระดับ 5-6% ซึ่งพฤติกรรมของนักลงทุนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ก่อนออกจากมาตรการชั่วคราวแบบ Uptick มีสัดส่วนอยู่ที่ระดับ 4-8% ซึ่งปัจจุบันหลังมีการกลับมาใช้เกณฑ์ปกติ Zero Plus Tick พบว่ามีสัดส่วนอยู่ที่ระดับ 1-4% ภายในช่วง 7-8 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามทางตลาดหลักทรัพย์ฯจะดูแลประเภทของหุ้นและพฤติกรรมของนักลงทุน รวมถึงการติดตามความเคลื่อนไหวการทำธุรกรรมชอร์ตเซลเพื่อสังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้มองว่าปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯต้องมอนิเตอร์ภาวะโดยรวมของตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะใกล้ช่วงการเลือกตั้งของสหรัฐ ซึ่งมีผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลก