แหล่งข่าวจากบมจ.ชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ระบุว่า บริษัทคงไม่ได้รับความเสียหายมากนักหากบมจ.ทีโอที(TOT)ยกเลิกสั่งซื้ออุปกรณ์รับสัญญาณ iPSTAR ที่จะต้องทยอยส่งมอบกว่า 600 ล้านบาท เพราะตลาดหลักของ iPSTAR ปัจจุบันอยู่ในต่างประเทศ แต่เชื่อว่าผลกระทบจะกลับไปอยู่ที่ TOT ซึ่งเสียโอกาสในการหารายได้จากต้นทุนต่ำ
"คือเราไม่ได้รับออเดอร์จากเขามาเกือบปีแล้ว เราก็ไปพึ่งตลาดอื่น ถามว่าเสียหายกว่านี้ คงจะไม่มีแล้ว ซึ่งถ้าได้ออเดอร์มาครั้งนี้ ก็ถือว่า win win ด้วยกันทั้งคู่...แต่ถ้าเขาจะชะลอต่อไปและสามารถจะตอบลูกค้าของเขาได้ว่าทำไมถึงไม่สั่งสักที หรือเขาไม่สนใจผลประกอบการของเขา เราก็คงทำอะไรตั้งนั้นไม่ได้"แหล่งข่าว SATTEL กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
รายงานข่าวเช้านี้ระบุว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)มีหนังสือให้ประธานบอร์ดทีโอทีระงับจัดซื้ออุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียม iPSTAR เพิ่มเติมจาก SATTEL ไว้ชั่วคราว เพื่อตรวจสอบว่าจำเป็นต้องจัดซื้อจาก SATTEL รายเดียวหรือไม่ และเหตุใดต้องกำหนดไว้ในสัญญา, ทำให้ทีโอทีเสียเปรียบหรือไม่ และได้มีการแก้ไขสัญญาอย่างไรหรือไม่
*เหตุผลที่ทีโอทีต้องระงับการจัดซื้ออุปกรณ์รับสัญญาณ iPSTAR
"ประเด็นหลัก ๆ ที่เข้าใจว่าทาง ICT ประเมินว่าให้ทางกฤษฏีกาติดตามเรื่องเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานของบริษัทฯอยู่ ซึ่งประเด็น 3-4 เรื่องก็มีมาตั้งเกินครึ่งปีได้แล้วว่า iPSTAR จะเป็นดาวเทียมหลักหรือดาวสำรอง สัดส่วนผู้ถือหุ้นจะมีผลยังไงไหม ประเด็นเหล่านี้ก็ได้มีการชี้แจงไปทั้งหมดแล้ว
เพราะฉะนั้นถ้าจะรอกฤษฏีกาตีความไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมากระทบหรือข่าวแย่สำหรับบริษัทฯ เพราะมีข่าวมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว และได้ชี้แจงตลอด ถ้าเขาทำอะไรได้ในตรงนั้นก็คงจะทำไปแล้ว
และถ้าจะไม่รอคำตอบของกฤษฏีกา บอร์ดทีโอทีจะต้องชี้แจงเหตุผลและความเหมาะสมในความจำเป็นในการจัดซื้ออุปกรณ์ iPSTAR ในครั้งนี้ ซึ่งมันก็ link มาถึงประเด็นที่ 2 ที่ว่า เขามองว่าสัญญาการจัดซื้อครั้งนี้ทำให้ TOT เสียผลประโยชน์หรือเปล่า ก็คือโครงการที่ TOT สั่งซื้ออุปกรณ์ iPSTAR ของเราเนี่ย ขาดทุนหรือกำไรกันแน่"
*ทาง TOT มีความจำเป็นแค่ไหนกับคำสั่งซื้ออุปกรณ์ iPSTAR
"จริง ๆ แล้วนักวิเคราะห์ฯ และผู้ที่ติดตามผลประกอบการของ TOT ก็พึ่งทราบว่า โครงการของ iPSTAR เป็นโครงการที่ทำให้ TOT มีกำไรมากที่สุดโครงการหนึ่ง จากการที่ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแล้ว TOT ไม่ได้สั่งซื้อเรามาประมาณ 8-9 เดือน ผลประกอบการของ TOT ก็แย่ลง
เขาไม่มีออเดอร์มานานมากแล้ว ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลง พึ่งจะมีออเดอร์ครั้งนี้ เพราะเขาอั้นไม่อยู่แล้ว คือแต่ก่อนยังไม่ซื้อเพราะอาจจะมีตัว UT อุปกรณ์ iPSTAR ค้างอยู่ในสต็อค แต่พอเมื่อความต้องการมีมากขึ้น ของก็หมด และสินค้ามีไม่พอ เมื่อไม่ได้สั่งซื้อจากเรา ก็ไม่มีให้บริการลูกค้า เขาก็ขาดรายได้ตรงนั้นไป เพราะฉะนั้น ทางเราและ TOT คิดว่าจะมีเหตุผลที่จะสามารถเข้าไปชี้แจงในเรื่องตรงนี้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องรอให้เขาชี้แจงสักพักหนึ่งก่อน"
*ทาง SATTEL มีความพร้อมในการจัดส่งอุปกรณ์ iPSTAR ให้ TOT ตามคำสั่งซื้อหรือไม่
"บอร์ดใหญ่อนุมัติการสั่งซื้อไปและได้เซ็นสัญญาไปเมื่อวันที่ 7 ก.ค.นี้เอง ส่วนข่าววันนี้ที่ออกมาเชื่อว่าน่าจะเป็นผลจากการเมือง แต่ออเดอร์นี้ยังคงมีอยู่ไม่ได้หายไปไหน เขาจะมี process ก่อนที่จะทำสัญญาจัดซื้อประมาณสักประมาณ 2 เดือน ซึ่งตอนนี้ก็พยายามเร่งอยู่ เราก็เข้าใจว่าในเดือนนี้น่าจะเรียบร้อย
ตามที่กำหนดไว้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็แล้วแต่ TOT ว่าจะสั่งออเดอร์มาเท่าไร ตามปกติจะออเดอร์ตามความต้องการ จะไม่มาซื้อไปเยอะมาก เพราะ TOT จะมี limit ในการเคลียร์ของ, รับออเดอร์ และส่วนมากรับออเดอร์มาแล้ว ค่อยมาสั่งแล้วเอาไปขายต่อ จะไม่ได้สต็อคของเยอะ คือเขาไม่มีความเสี่ยง ขณะที่เราจะต้องสต็อคของไว้รองรับคำสั่งซื้อของลูกค้า
ตอนนี้เรามีของตุนอยู่บ้างหาก TOT ต้องการ ล็อตนี้ของเขาก็ 17,500 ชุด (มูลค่า 600 ล้านบาท)ก็คิดว่าอาจจะเป็นลักษณะทยอยส่งตามความต้องการของ TOT ที่สั่งเข้ามาแต่ละครั้ง"
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--