(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมตัวกรอบแคบ วิตกงบฯ Q3/63 ของแบงก์, การเมืองในปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 12, 2020 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway ซึมตัวในกรอบแคบ แม้เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นโลกจะปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยทำเนียบขาวยื่นข้อเสนอครั้งใหม่แก่พรรคเดโมแครต ด้วยการจะเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิม 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ มองว่านักลงทุนน่าจะยังชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากจะมีวันหยุดคาบเกี่ยวในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) รวมถึงสัปดาห์นี้ยังมีหลายปัจจัยที่ตลาดยังรอติดตาม ทั้งในส่วนการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 14 ต.ค. ที่จะปักหลักพักค้างคืน และการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของกลุ่มแบงก์ ที่คาดว่าจะออกมาดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าจะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นหรือไม่ทำให้ยังเป็น downside risk ของกลุ่มแบงก์

นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ หลังการผละงานประท้วงของแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์ได้ยุติลงแล้ว โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงก็ไม่ได้เป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานบ้านเราเช่นกัน รวมถึงนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นได้ค่อนข้างลำบาก

พร้อมมองแนวรับที่ 1,2560 และ 1,255 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,275 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,586.90 จุด เพิ่มขึ้น 161.39 จุด (+0.57%) , ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 30.30 จุด (+0.88%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,579.94 จุด เพิ่มขึ้น 158.96 จุด (+1.39%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 71.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.22 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 30.95 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ต.ค.63) 1,267.14 จุด ลดลง 7.69 จุด (-0.60%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,359.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 ต.ค.63) ปิดที่ 40.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ต.ค.) อยู่ที่ 1.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.11 อ่อนค่าตามทิศทางค่าเงินหยวน จับตาชุมนุมการเมืองสัปดาห์นี้
  • "คลัง" เปิดแผนบริหารหนี้ปีงบประมาณ 2564 จ่อลุยกู้ 3 ล้านล้านบาท ทั้งชดเชยขาดดุล กู้ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูโควิด-19 คาดสิ้นปีหนี้รวม 9.3 ล้านล้านบาท ยืนวินัยการคลัง 60% ของจีดีพี พร้อมเสนอ ครม.เร่งติดตามแผนลงทุนระยะ 5 ปี วงเงินลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท หลังพบดีเลย์อื้อ 56 โครงการ หวั่นกระทบขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
  • รมว.อุตสาหกรรม เตรียมหารือเอกชน หาช่องทางยืดมาตรการพักชำระหนี้ของธปท.ไปอีก 2 ปี จากที่จะสิ้นสุดมาตรการในเดือนต.ค.นี้ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี หวังช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด-19
  • นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2564 มีเป้าหมายรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 1 ใน 5 ของโลก รายได้ท่องเที่ยวรวม 0.7-1.5 ล้านล้านบาท เป็นรายได้ตลาดในประเทศอยู่ที่ 4-5 แสนล้านบาท รายได้ตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 0.3-1 ล้านล้านบาท
  • รัฐบาลเดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เน้นความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พึ่งพาตนเอง พร้อมมุ่งที่การลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคม กำลังทำการศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทยอันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ระหว่างท่าเรือจังหวัดชุมพรกับท่าเรือจังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร คาดว่าจะช่วยย่นเวลาเดินทาง ของเรือสินค้าจากเส้นทางปกติได้กว่า 2 วัน
  • สาธารณสุขพบคนขับรถสินค้าชาวเมียนมาที่ข้ามฝั่งชายแดนมาส่งสินค้าในไทย ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 3 คน เปิดไทม์ไลน์ไปไหนตลอดวันก่อนกลับประเทศ ด้านจังหวัดตากไม่รอช้าออกมาตรการคุมเข้มทันทีสกัดรถสินค้าผ่านด่านพรมแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 จนหวิดวุ่นเมื่อเมียนมาปิดสะพานตอบโต้ ขณะเดียวกันม็อบโผล่ประท้วงขอให้ปิดด่านชายแดนตากทั้งหมด จนกว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ด้านสื่อเมียนมาย้ำ "ย่างกุ้ง" คือศูนย์กลางระบาด
  • นายอานนท์ นำภา ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำม็อบคณะราษฎร ที่นัดชุมนุมใหญ่ 14 ตุลาคมนี้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตรียมรวมตัวที่ถนนราชดำเนินก่อนเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลปักหลักค้างคืนไล่นายกรัฐมนตรี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • EA (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 55 บาท โดยมองกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H63 เพราะโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้าสู่ high season ชดเชยโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่เข้าสู่ low season ขณะเดียวธุรกิจไบโอดีเซล จะดีขึ้นจากการกลับมา reopen ของธุรกิจและรัฐบาลส่งเสริมการใช้ B10 รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้จาก PCM ตั้งแต่ ส.ค. ส่วนธุรกิจที่เป็น New S-curve อื่นยังเป็นไปตามแผนคือรถแท็กซี่ไฟฟ้าและเรือไฟฟ้าจะเริ่มส่งมอบปลายปีนี้ นอกจากนี้ แผนฟื้นฟู ขสมก. ที่เตรียมเข้าครม.ภายใน ต.ค. เป็นสิ่งที่ตลาดลุ้นว่า EA-NEX มีศักยภาพในการประมูล BUS EV
  • RS (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 25 บาท ประเมินกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ 128 ล้านบาท (+38% YoY, +18% QoQ) กำไรยังคงเติบโตดี YoY จาก 1) รายได้ commerce ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 630 ล้านบาท (+42% YoY) จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวหนุนรายได้ inbound & outbound ขยายตัวต่อเนื่อง, การออกผลิตภัณฑ์ใหม่และการจัด Birthday Sale ในเดือน ก.ย.63, 2) รายได้ media ที่ปรับตัวลดลง -8% YoY ลดลงน้อยกว่า Industry?s advertising expenditure (Ad Ex) ที่ลดลง -10% YoY จากการปรับกลยุทธ์การขายโฆษณาและรับรู้รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ที่ 40 ล้านบาท และ 3) gross profit margin (GPM) ขยายตัวจากสัดส่วนรายได้ของ commerce ที่ขยายตัว โดย หุ้น RS จัดเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีกำไรเติบโตดีของกลุ่ม ปัจจุบันเทรดที่ 2564E PER = 25.1x (-1.5 SD below 3-yr average PER) เทียบกับกำไรสุทธิที่เติบโตสูง (2562-2565 = 34% CAGR) และยังมี upside จาก M&A

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ