สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (5 - 9 ตุลาคม 2563) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ในสัปดาห์นี้ (5 วันทำการ) มีมูลค่ารวม 278,409.19 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 55,681.84 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 24% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 68% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 188,273 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 47,335 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 12,536 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29DA (อายุ 9.2 ปี) LB386A (อายุ 17.7 ปี) และ LB24DB (อายุ 4.2 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 11,873 ล้านบาท 8,134 ล้านบาท และ 3,777 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด รุ่น NTL224A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 926 ล้านบาท หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY20NA (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 820 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รุ่น TRUE21OA (BBB+) มูลค่าการซื้อขาย 609 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1-3 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ อยู่ที่ระดับ 840,000 ราย สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 820,000 ราย นับว่าต่ำที่สุดตั้งแต่รัฐบาลประกาศชัตดาวน์ในกลางเดือน มี.ค. เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้านปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนก.ย. 63 ลดลงร้อยละ 0.70 (YoY) การลดลงของเงินเฟ้อเกิดจากสินค้าในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลงตามราคาในตลาดโลก ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้นร้อยละ 0.25 (YoY) ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า (13 ต.ค.)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (5 ต.ค. 63 - 9 ต.ค. 63) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ -1,426 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) +200 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) -1,625 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (5 - 9 ต.ค. 63) (28 ก.ย. - 2 ต.ค. 63) (%) (11 ม.ค. - 9 ต.ค. 63) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 278,409.19 364,975.43 -23.72% 16,354,320.28 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 55,681.84 72,995.09 -23.72% 86,075.37 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 117.13 117.22 -0.08% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.33 104.31 0.02% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (9 ต.ค. 63) 0.48 0.51 0.52 0.68 0.88 1.40 1.58 2.18 สัปดาห์ก่อนหน้า (2 ต.ค. 63) 0.47 0.50 0.51 0.67 0.87 1.38 1.55 2.18 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 1 1 1 1 2 3 0
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้