นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฎิบัติการ บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น(TRC) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้คาดว่าจะมีการอนุมมัติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดย่อม (SPP) ที่เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะทำขนาด 40 เมกะวัตต์ โดยจะใช้เงินลงทุนราว 1.6 พันล้านบาท
"บริษัทมี know-how ในการทำโรงไฟฟ้าและมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ด้านเงินลงทุนอยู่ระหว่างการหาพันธมิตร" นายสมัย กล่าว
สำหรับโครงการรับซื้อไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) นั้น คาดว่า บริษัทจะเข้าไปเป็นผู้รับเหมาช่วงต่อจากผู้รับเหมารายใหญ่เนื่องจากการแข่งขันใน IPP สูงและต้องใช้เงินลงทุนหลักหมื่นล้านเมื่อเทียบกับ SPP ที่ใช้เงินลงทุนต่อโครงการเพียง 2-3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทมีการลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม แต่ยังคงไม่มีแผนในการเพิ่มทุน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท แต่หากบริษัทมีงานโครงการขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องขายบางโครงการที่ลงทุนอยู่ออกไป และรับเป็นผู้รับเหมาแทน
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 256 ล้านบาท
นายสมัย กล่าวถึง การจ่ายปันผลระหว่างกาลว่า ในการประชุมบอร์ดวันนี้ยังไม่มีการนำเรื่องปันผลระหว่างกาลเข้าที่ประชุม แต่บริษัทก็จะพยายามจ่ายไม่น้อยกว่านโยบายที่กำหนดไว้ 30% ของกำไรสุทธิให้ได้
สำหรับโครงการราชเพลินที่ปัจจุบันมี บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ถือหุ้น 10% กลุ่มมณียา ถือหุ้น 30% จะมีการนำเข้าทีประชุมคณะกรรมการวันนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับโครงสร้างการถือหุ้น และเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อ TRC แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ นายสมัย ยืนยันว่า จะพยายามก่อสร้างในโครงการที่ให้มาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 5-6% และที่ผ่านมาบริษัทพยายามรักษาระดับ gross margin ที่ 14-15% ซึ่งถือว่าสูงกว่าผู้รับเหมารายอื่นๆ มาก และจะไม่เข้าไปแข่งขันในโครงการที่ขาดทุน และอนาคตหลังจากที่เข้าไปเป็นผู้พัฒนาอสังหาก็จะเข้าสู่การเป็น Invester เพื่อลงทุนในแต่ละโครงการ
ส่วนกรณีที่ทาง ROTARY TREL PTE.LTD. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทยอยขายหุ้นออกมาจนปัจจุบันเหลือสัดส่วนเพียง 2.9% ไม่ได้มีผลกระทบกับทางบริษัท โดยยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและไม่ได้มีกลุ่มอื่นเข้ามาแทน
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--