นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนเร่งขยายธุรกิจจัดการแข่งขัน "ดิจิทัล มอเตอร์สปอร์ต" เพื่อเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะสร้างรายได้แก่บริษัท หลังจากการแข่งขันดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้เข้าแข่งขันและจำนวนผู้ชมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีอัตราการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้กระแสความนิยมในการแข่งขันดิจิทัล มอเตอร์สปอร์ต เพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีการยกระดับอีสปอร์ตให้เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้แก่นักแข่งได้
ดังนั้น บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการจัดหาสปอนเซอร์หลักเพื่อสนับสนุนการจัดแข่งขันดังกล่าว จากปัจจุบันที่บริษัทเป็นผู้ได้รับสิทธิ์การจัดแข่งขันเกมแข่งรถเสมือนจริง Gran Turismo Sport (GT Sport) ในประเทศไทย โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้จัดการแข่งขันรายการ Gran Turismo Pro Series 2020 Season # 1 By B-Quik ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก B-Quik และถ่ายทอดสดผ่านระบบ Live Streaming ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้ชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live กว่า 1.2 ล้านราย และมีจำนวนผู้ติดตามในเพจ GP eRacing กว่า 2.9 หมื่นคน
ล่าสุดได้กำหนดจัดการแข่งขันอีก 4 รายการใหญ่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับแวดวงยานยนต์ ได้แก่ 1.รายการ Gran Turismo Pro Series 2020 Season # 2 ที่จัดขึ้นในวันที่ 10, 17 ตุลาคม 2563 และวันที่ 21, 28 พฤศจิกายน 2563 2.รายการ Michelin eRacing Challenge จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 3.รายการ E-Project By FIA และ รยสท. จะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 และ 4. รายการ SINGHA Ferrari e-racing challenge จะจัดขึ้นในวันที่ 31 พฤศจิกายน ถึง 13 ธันวาคม 2563
"เรามองว่าดิจิทัล มอเตอร์สปอร์ต เป็นธุรกิจที่มีอนาคตและโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นตามเทรนด์การเติบโตของธุรกิจอีสปอร์ตทั่วโลก แม้ว่าในปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่าง ๆ ระมัดระวังการใช้จ่ายงบการตลาด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว จะส่งผลดีต่อการหาสปอนเซอร์และเพิ่มความถี่จัดการแข่งขันเพื่อสร้างรายได้แก่บริษัทเพิ่มขึ้น"นายอโณทัย กล่าว