ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ส่งผลให้นักลงทุนลดการทำ carry trade เงินเยน ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าแตะระดับสูงในรอบ 4 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายในตลาดเอเชียวันนี้
ดีลเลอร์กล่าวว่า เฮดจ์ฟันด์ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์สหรัฐและตลาดสินเชื่อทั่วโลก ส่งผลให้มีการเทขายเพื่อระดมทุนจ่านเงินกู้สกุลเงินเยนที่คิดดอกเบี้ยในระดับต่ำ
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 631.60 จุด หรือ 2.87% ที่ระดับ 21,375.72 จุด จากระดับต่ำที่ 21,303.35 จุด และระดับสูงที่ 21,637.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.78 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
ยูจีน ลอว์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของเซเลสเชียล เอเชีย ซิเคียวริตี้ส์ โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดร่วงลงในวันนี้คือ ความกังวลว่าเฮดจ์ฟันด์จะได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐมากขึ้น รวมทั้งการทำ carry trade เงินเยน โดยกระแสข่าวตามปกติเกี่ยวกับเฮดจ์ฟันด์และสถาบันการเงินทั่วโลกกำลังถูกบีบคั้นจากปัญหาในตลาดซับไพรม์สหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ลอว์กล่าวว่า นักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าความผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐจะสิ้นสุดลงเมื่อใด รวมทั้งเรื่องขอบเขตของปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่เห็นด้วยกับการออกมาเตือนของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่ว่า การทำ carry trade เงินเยนอาจจะทำให้เกิดความวุ่นวานทางด้านการเงินระหว่างประเทศเหมือนวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นในเอเชียเมื่อพ.ศ. 2540-2541 ธนาคารกลางต่างๆรู้ดีว่าควรจะทำอย่างไรกับการลดการทำ carry trade เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดต่างๆเมื่อช่วงเดือนก.พ.-มี.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นทุนจดทะเบียนสูงส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยหุ้น HSBC ปิดลบ 2.07 ดอลลาร์ หรือ 1.48% และหุ้นฮัทชิสัน วัมเปา ตกลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 1.91%
หุ้นไชน่า โมบายล์ปิดลบ 2.30 ดอลลาร์ หรือ 2.66% ก่อนที่จะรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--