นายณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุนอินเว้นท์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า โครงการอินเว้นท์ (InVent) ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมลงทุนภายใต้บริษัท ได้ร่วมลงทุนกับ ชมชอบ (Chomchob) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแต้มเป็นเงินอันดับหนึ่งของไทย ซึ่งเป็นการช็อปปิ้งในรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่กับการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด โดยเป็นการลงทุนรอบ Series A ประมาณ 50 ล้านบาท ร่วมกับนักลงทุนชั้นนำ เช่น 500 TukTuks, SIX Networks และกลุ่มนักลงทุนอื่น ๆ
"เรามองว่า ชมชอบ เป็นแอปพลิเคชันรายแรกที่ปฏิวัติระบบพ้อยท์ ที่มีผู้ใช้ดาวน์โหลดมากกว่า 2 ล้านคน โดยจะเปลี่ยนคะแนนสะสมที่ไม่ได้ใช้เป็นการเพิ่มแต้มให้กับลูกค้าเพื่อใช้แลกของรางวัลต่าง ๆ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมโยงของการใช้แต้มดิจิทัลในระบบนิเวศ"นายณรงค์พนธ์ กล่าว
นายณรงค์พนธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ข้อมูลที่มีมาพัฒนาบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักช็อปและสนับสนุนสังคมไร้เงินสด ประสบการณ์นี้จะสร้างความแตกต่างและสามารถเติบโตได้ในยุคดิจิทัล เนื่องจากมองเห็นโอกาสสำหรับตลาดใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่ง และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ ชมชอบ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และนำเสนอบริการพิเศษที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้คะแนนแต้มที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยวิธีที่ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้านนางสาวปารดา ทรัพย์ประเสริฐ ผู้อำนวยการดูแลกองทุน 500 TukTuks กล่าวว่า ศักยภาพของ ชมชอบ จะช่วยแก้ปัญหาคะแนนสะสมที่ไม่ได้ถูกใช้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของตลาด โดยทุก ๆ ปี มีคะแนนสะสมมากถึง 47,000 พันล้านคะแนนที่ผู้ใช้ได้รับ แต่มีคะแนนสะสมที่ถูกนำไปใช้จริงเป็นจำนวนน้อยมาก ด้วยความสามารถและประสบการณ์ของผู้ก่อตั้งและทีมงาน ทำให้เชื่อว่า ชมชอบ จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะให้บริการลูกค้าในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น การลงทุน เป็นต้น
นายวัชระ เอมวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วมบริหาร SIX Network กล่าวว่า ชมชอบ นับเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ SIX Network สามารถเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้คนใน ecosystem ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะด้วยร้านค้าที่มีมากกว่า 500,000 ราย SIX Network สามารถเชื่อมต่อกับร้านค้าเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มของชมชอบ
นายนท ชุติโสวรรณ ประธานฝ่ายบริหารงาน และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ชมชอบกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 61 ปัจจุบันชมชอบมีลูกค้ามากกว่า 3 ล้านคน โดยลูกค้าสามารถนำแต้มจากบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรสะสมคะแนนต่างๆ ไปแลกสินค้าหรือบริการได้กว่า 500,000 รายการ ทั้งสินค้าไลฟ์สไตล์ ชำระค่าน้ำค่าไฟ แลกเข้า e-wallet หรือนำแต้มมาออมไว้ในชมชอบเพื่อรับผลตอบแทนเป็นแต้มเพิ่มได้ ทั้งนี้ เงินทุนที่ได้รับจะช่วยให้ชมชอบสามารถเพิ่มจำนวนร้านค้าพันธมิตร โปรแกรมแลกเปลี่ยนแต้มร้านค้า เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายและสร้างสรรค์มากขึ้นซึ่งผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทจะใช้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคเพื่อรองรับการเติบโตของประชากรในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเราตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแต้มอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 68 การเติบโตของชมชอบสอดคล้องกับตลาดที่มีศักยภาพ อย่างแต้มบัตรเครดิต และแต้มจากบัตรสมาชิกต่างๆ มีมากกว่า 3 แสนล้านแต้ม หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท (Source: The Nilson report and Bank of Thailand) รวมทั้งใช้เงินทุนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อขยายขนาดแพลตฟอร์ม การขยายทีมและส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด ชมชอบตั้งเป้ามีฐานลูกค้า 10 ล้านคน และรายได้ 500 ล้านบาท ภายใน 3-5 ปี โดยยุทธศาสตร์คือ การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น