HILITE: TISCO บวก 5.32% กำไร Q3/63 ดีกว่าคาด-คุณภาพพอร์ตลูกหนี้อยู่ในเกณฑี์ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 16, 2020 10:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TISCO ปรับขึ้น 5.32% มาที่ 69.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 126.60 ล้านบาท เมื่อเวลา 9.59 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 69 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 69.75 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 68.75 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ให้ราคาเป้าหมายที่ 86 บาท หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ที่ 1,612 ล้านบาท ลดลง 14.2%YoY แต่ฟื้นตัวขึ้น 20.9% QoQ ดีกว่าที่หยวนต้าฯและตลาดคาด แม้พอร์ตลูกหนี้รวมจะลดลง 1.4% QoQ ทั้งในส่วนของลูกหนี้รายย่อยลดลง 1.5% QoQ ลูกหนี้กลุ่ม SME ลดลง 4.2% QoQ และลูกหนี้กลุ่มบริษัทลดลง 0.2% QoQ สอดคล้องกับนโยบายเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาให้สินเชื่อใหม่ของ TISCO เพื่อรักษาคุณภาพของพอร์ต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่กลับมาเพิ่มขึ้น 7.6%QoQ จน Cost to Income Ratio เพิ่มเป็นแตะ 44.3%

แต่ปัจจัยลบดังกล่าวถูกหักล้างลงด้วยแรงหนุนจาก 1) NIM ปรับตัวดีขึ้นเป็น 4.7% จากเพียง 4.3% ในไตรมาส 2/63 หลังต้นทุนทางการเงินปรับตัวลงเหลือ 1.5% 2) รายได้ค่าธรรมเนียม ปรับขึ้น 17%QoQ หลังคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมการขายที่ต้องดำเนินผ่านสาขาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นทั้งในธุรกิจนายหน้าประกันภัยและธุรกิจจัดการกองทุน รวมถึงการหมดอายุมาตรการลด Front End Fee ในการขายหน่วยลงทุนที่ครบกำหนดตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย. และ 3) การตั้งสำรองลดลง 30.7%QoQ หลังบริษัทตั้งสำรองล่วงหน้าเผื่อความเสี่ยงของพอร์ตลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปมากแล้วในครึ่งแรกปีนี้ อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาลูกหนี้ในพอร์ตมีการกลับมาชำระคืนหนี้ได้ในระดับที่ดี ทำให้บริษัทลด Credit Cost ลงเหลือเพียง 1.1% จาก 1.5% ในไตรมาส 2/63

คุณภาพของพอร์ตลูกหนี้ TISCO ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมี NPL 2.6% และ Coverage Ratio 196.1% ดีขึ้นมากเทียบกับไตรมาส 2/63 ที่มี NPL 3.3% และ Coverage Ratio 155% ส่วนเงินกองทุนขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนมี Tier 1 Ratio 18% และ BIS Ratio 22.6% สูงกว่าความต้องการขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 8.5% และ 11% ตามลำดับ

ทั้งนี้ มองกำไรของ TISCO ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในไตรมาส 2/63 และคาดกำไรจากการดำเนินงานจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากยอดขายยานยนต์ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดทำให้สินเชื่อรายย่อยมีโอกาสเพิ่มขึ้นตาม

ขณะที่ TISCO เป็นหุ้นแบงก์ที่มีพอร์ตสินเชื่อและฐานะทางการเงินแข็งแรงที่สุดในกลุ่ม ทั้ง Coverage Ratio ที่กลับมาแตะระดับ 196% และ BIS Ratio ที่สูงกว่าขั้นต่ำถึง 11% ทำให้คาด TISCO จะไม่มีปัญหาในด้านสภาพคล่องในช่วงที่บริหารจัดการหนี้เสียจากโควิด-19 และมีแนวโน้มสูงที่ผลทดสอบ Stress Test ที่จะส่ง ธปท. ในเดือน ต.ค. นี้จะไม่มีประเด็นน่ากังวล ทำให้ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงจนทำให้มี Upside ราว 30.8% จากมูลค่าพื้นฐานปี 64 ที่ 86 บาท และ Div. Yield ที่คาดหากจ่ายได้ตามปกติจะสูงถึง 8.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ