และบริษัทยังคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 1,440 ล้านบาท โดยรักษา Net Profit Margin ได้ 7-8% และอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตเลข 2 หลักหรือมากกว่า 10% เพราะราคาสุกรในประเทศปรับตัวดีขึ้นผลักดันให้มาร์จิ้นสูงขึ้น พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายการบริหาร และราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวลงมาก พร้อมกันนั้น บริษัทวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตสุกรมากขึ้น 25% ต่อปี ทั้งในไทยและเวียดนาม ในช่วง 3 ปีหรือปี 64-66 ด้วยงบลงทุน 7,500 ล้านบาท หรือปีละ 2,500 ล้านบาท ทำให้บริษัทปรับสัดส่วนรายได้ธุรกิจสุกรมากขึ้นเป็น 40% จาก 30% ในปี 62 และปี 63 เริ่มขยับขึ้นมา 33% เพื่อสร้างกำไรที่มีเสถียรภาพ อีกทั้งดึงธุรกิจขายปลีก"ไทย ฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต" เจาะหารายได้ใหม่ของกลุ่ม