นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในลักษณะซึม ๆ จากปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีทางออก แต่ก็ยังได้แรงหนุนบ้างจากปัจจัยต่างประเทศมาช่วยประคองดัชนีฯไม่ให้หลุดแนว 1,200 จุด จากที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ราว 0.3-0.5% ตามดาวโจนส์ที่มีการดีดกลับ หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ระบุว่าพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และล่าสุดทำเนียบขาวได้เสนอเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
แต่ปัจจัยจากต่างประเทศก็ยังเทียบไม่ได้กับการเมืองในประเทศ โดยช่วงนี้ตลาดบ้านเราคงจะเงียบ ๆ รอดูการเปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภาในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ และก็มีวันหยุดระยะยาวในช่วงปลายสัปดาห์นี้ด้วย นอกจากนี้ตลาดยังรอดูการดีเบตครั้งสุดท้ายในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายโจ ไบเดน คู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ดี ตลาดฯอาจจะได้แรงหนุนเล็กน้อยจากกลุ่มแบงก์ หลังงบฯของกลุ่มแบงก์ออกมาไม่ได้แย่อย่างที่คาด มีแค่บางแบงก์เท่านั้น พร้อมให้แนวรับ 1,200 จุด ส่วนแนวต้าน 1,215 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,308.79 จุด เพิ่มขึ้น 113.37 จุด (+0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,443.12 จุด เพิ่มขึ้น 16.20 จุด (+0.47%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,516.49 จุด เพิ่มขึ้น 37.61 จุด (+0.33%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.05 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 48.48 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.51 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.09 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.07 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ต.ค.63) 1,210.67 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด (+0.16%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 550 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ต.ค.63) ปิดที่ 41.46 ดอลลาร์/บาร์เรลเพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 1.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ต.ค.63) อยู่ที่ 0.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.19 ทิศทางแข็งค่าจากแรงขายดอลล์ มองกรอบ 31.15-31.25
- ผู้ว่าแบงก์ชาติเปิด 5 โจทย์หินแก้เศรษฐกิจ ชูวาระด่วนเร่งสางวิกฤติหนี้ยั่งยืน รักษาเสถียรภาพระบบการเงิน รับโควิดทุบจีดีพีทรุดยาว คาดฟื้นตัวกลับมาปกติไตรมาส 3 ปี 2565 ปรับยุทธศาสตร์ดูแล หยุดใช้มาตรการปูพรม แต่หันมาเน้นช่วยตรงจุดมากขึ้น ห่วงการเมืองป่วนลากยาวกระทบเชื่อมั่น ขณะที่มาตรการทางการเงินถึงทางตันที่จะใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หนุนใช้มาตรการการคลังแทน
- "คลัง" อุ้มเอสเอ็มอี เตรียมยืดหนี้แสนล้านให้กลุ่มขาดสภาพคล่องชำระหนี้ไม่ได้ นัดหารือ ธปท.-ธนาคารพาณิชย์สรุปมาตรการชงครม.สัปดาห์หน้า กกร.ประเมินลูกหนี้เอสเอ็มอีต้องช่วยต่ออีก 10% หลังหมดพักหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว
- 3 องค์กรเอกชนทั้ง ส.อ.ท. สภาหอฯ สมาคมธนาคารไทย หนุนรัฐบาลเปิดประชุมสภาวิสามัญ 26-27 ตุลาคม 2563 ผ่าทางตันประเทศไทยร่วมหาทางออกแก้ปัญหาการชุมนุม หวั่นยืดเยื้อกระทบเชื่อมั่นหลังนักลงทุนเริ่มสอบถาม เกรงกระทบกับแผนลงทุนและการผลิตในระยะยาว ด้านประธานสมาคมธนาคารไทย หนุนเปิดประชุมสภาวิสามัญ เพื่อนำไปสู่การเจรจาและช่วยกันหาทางออก
- ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณี "บีทีเอส" คัดค้าน รฟม.แก้ไขเกณฑ์รวมคะแนนเทคนิคและราคา ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยให้ใช้เกณฑ์พิจารณาตามประกาศเดิม ด้าน รฟม.เตรียมอุทธรณ์ ยันคำสั่งไม่ระงับขั้นตอน รับซอง 9 พ.ย.ยังไม่เปลี่ยน
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่ได้รับวีซ่าเอสทีวี ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.2563 จำนวน 41 คนจากจีน และจากนั้นวันที่ 26 ต.ค. อีก 147 คน และหากยาวไปถึงวันที่ 2 พ.ย. จะมีทยอยเข้ามาครบ 400 คน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการทุกขั้นตอนให้รอบคอบและรัดกุม
*หุ้นเด่นวันนี้
- TVO (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 40 บาท ได้ sentiment บวกจากราคาถั่วเหลืองพุ่งทำ New high ในรอบ 28 เดือน รวมถึงกากถั่วเหลืองก็เพิ่ม ขึ้นหนุนกำไร Q3/63 และ Q4/63 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- BBL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 130 บาท ประกาศกำไรสุทธิ Q3/63 +30% Q-Q แต่ -57% Y-Y ต่ำกว่าฟินันเซียฯคาดและตลาดคาด 40% และ 25% ตามลำดับ จากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่สูงกว่าคาดจากรายการ one-time ที่เกี่ยวข้องกับการรวมสาขาในอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม NIM ขยับขึ้นได้เล็กน้อย ส่วน NLP ลดลงเล็กน้อย ขณะที่ระดับเงินกองทุนยังแข็งแกร่งหลังออก Ad Tier 1 US$750 ล้านเดือนก่อน