ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วง 10 จุด ตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ หลังนักลงทุนผิดหวังที่ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในการผลักดันมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ กดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 10.21 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,205.68 จุด ลดลง 10.80 จุด (-0.89%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.32 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,207.94 จุด ลดลง 8.54 จุด (-0.70%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบราว -0.5% ถึง -1% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบ 200 จุด วิตกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯอาจจะไม่ทันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันตลาดบ้านเราก็เผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองในประเทศ แม้ว่าจะงดการชุมนุมทางการเมืองเป็นเวลา 3 วัน แต่นักลงทุนก็คงจะไม่อยากถือหุ้นข้าม 3 วันเพราะเป็นความเสี่ยง และวันอาทิตย์ก็อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้หลังครบกำหนดแล้ว จึงเลือกที่จะลดความเสี่ยงก่อน
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามตัวเลขส่งออกของไทย และติดตามการดีเบตครั้งสุดท้ายในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายโจ ไบเดน คู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,200-1,223 จุด