หุ้น SCGP ปิดเทรดวันแรกที่ 35.00 บาท เท่ากับราคาขาย IPO ที่ 35 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 11,857.39 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 37 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 37.25 บาท และราคาลงต่ำสุด 35.00 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมิน market cap เหมาะสมของ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ผ่านประมาณการบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) อยู่ที่ราว 1.7 แสนล้านบาท หรือราว 38.4 บาท/หุ้น (ยังไม่รวม upside จากการขยายกำลังการผลิต ประเมินราว 5.8 บาท/หุ้น) ซึ่งหากเทียบกับราคา IPO ถือว่ามี upside โดยคงมุมมอง SCGP น่าสนใจ จากคาดธุรกิจและกำไรปี 2564 ของ SCGP ฟื้นตัวจากฐานต่ำในปี 2563 ที่มีผลกระทบ โตวิด-19 และได้การขยายกำลังการผลิตมาหนุน และเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
จากการเติบโตจาก segment e-commerce, โตตามเศรษฐกิจในอาเซียน ทั้งส่วนของ Packaging paper และ PPP ที่บริษัทเป็นเบอร์ 1 โดยเฉพาะ PPP ที่ยังขยายตัวได้อีกมาก, การเติบโตจากโอกาส M&A ขยายตัวแนวดิ่งในตลาดต่างประเทศ อาศัยจุดแข็งและทำซ้ำจากความสำเร็จในประเทศ, การเพิ่มประสิทธิภาพหลังควบรวมบริษัท Fajar และ Visy Packaging Thailand และดอกเบี้ยจ่ายที่จะลดลงจากการใช้คืนเงินกู้หลังจากได้รับเงินจาก IPO
ทั้งนี้ ประเมินหากราคา SCGP สูง/ต่ำ กว่า 38.40 บาท/หุ้น ทุกๆ +/-1 บาท จะเป็น upside ต่อ SCC +/-4 บาท/หุ้น หรือราว +/- 1%