นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดเผยว่า สถานการณ์การดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากปริมาณความต้องการบริโภคไก่และสุกร ยังเติบโตได้ดี เพราะการเกิดโรคระบาดอหิวาต์หมู (ASF) ทำให้ปริมาณสุกรในตลาดหายไป รวมทั้งมีการหันมาบริโภคไก่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาขายทั้งสุกรและไก่ ยังคงยืนในระดับสูงได้จนถึงสิ้นปีนี้
"การที่ปริมาณสุกรในจีน และเวียดนามลดลง จากโรคระบาด ASF ทำให้ราคาขายสุกรยืนได้ในระดับสูง รวมทั้งมีการหันมาบริโภคไก่มากขึ้น ประเมินว่าสถานการณ์แบบนี้น่าจะยังคงมีให้เห็นไปอีก 1-2 ปี ดังนั้น ก็น่าจะทำให้ปริมาณการส่งออกเนื้อสัตว์เติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดในยุโรปก็ประเมินว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายความต้องการบริโภคก็น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งการส่งออกไปจีนยังคงทำได้ดี"นายวินัย กล่าว
นายวินัย กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563 เติบโต 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยคาดมีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) เป็น Double Digit นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตรองรับตลาดที่เติบโต โดยเพิ่มกำลังการผลิตสุกรทั้งในไทยและเวียดนาม ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เพื่อรองรับกำลังการผลิตหมูที่เพิ่มขึ้น และขยายกำลังการผลิตไส้กรอก โดยจะให้ความสำคัญกับอาหารมากขึ้น เน้นการขยายธุรกิจในส่วนของสุกรทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม
รวมทั้งยังคงเดินหน้าลดต้นทุนการผลิตด้วย การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการ 4 โครงการ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ทุกโครงการได้ภายในสิ้นปีนี้ และจะสามารถลดต้นทุนการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี สำหรับ บริษัท ไทย ฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต จำกัด (Thai Foods Fresh Market Co.,Ltd.) ที่ดำเนินธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค เพื่อเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ได้เปิดสาขาแรกในเดือนตุลาคมนี้