ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลง ตามตลาดตปท.ปัจจัยลบภายนอก แรงขายต่างชาติกดดัน

          นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ปรับลงตามตลาดต่างประเทศ รับปัจจัยลบจากภายนอกต่อเนื่องขณะที่ต่างชาติยังขายออกค่อนข้างเยอะ จะเห็นว่าเมื่อวานลบตั้งแต่เปิดตลาดและวันนี้ตลาดต่างประเทศที่ลบกันทั่วภูมิภาคยังเป็นส่วนกดดันตลาดหุ้นไทยอยู่และแรงขายจากต่างชาติยังค่อนข้างออกมาเยอะในช่วงนี้ ฉะนั้นปัจจัยเป็นอิทธิพลจากภายนอกถึงแม้ข้างในมีเรื่องผลประกอบการแต่เท่าที่ดูแรงกระตุ้นไม่พอ 
          "ภายในเรื่องผลประกอบการ เงินปันผล ยังเป็นแรงกระตุ้นที่ไม่พอที่จะสู้กับปัจจัยลบจากภายนอก ต่างประเทศที่ลงเหมือนเดิมช่วงนี้ปัญหาซับไพร์มกระทบกับตลาดสินเชื่อ ทำให้ธุรกิจสินเชื่อชะงักและจะส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงิน เป็นปัจจัยลบที่มาจากข้างนอกบ้านเราอาจจะมีผลเกี่ยวเนื่องกันอยู่เพราะตอนนี้โดยภาพรวมหรือ Economic ค่อนข้างจะสัมพันธ์กันอยู่แม้ว่าจะไม่ได้กระทบโดยตรงแต่โดยอ้อมก็มีผลและการขายของต่างชาติจะโยงกัน เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลงก็ขายเพื่อลดความเสี่ยง"นายอนุพนธ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(14 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,028.92 จุด ลดลง 207.61 จุด(-1.57%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,426.54 จุด ลดลง 26.38 จุด(-1.82%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,499.12 จุด ลดลง 43.12 จุด (-1.70%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,983.29 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 72.38 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.76 ดอลลาร์ 
          - ศาลฎีกาไฟเขียวออกหมายจับ "ทักษิณ-พจมาน" เบี้ยวคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ พร้อมนัดฟังผลการดำเนินการตามหมายจับ และนัดพิจารณาคดีครั้งแรกใหม่ 25 ก.ย. อัยการส่งหมายจับให้ตำรวจล่าตัววันนี้ ทีมทนายแจ้งให้ "ทักษิณ-พจมาน" ทราบแล้ว อ้างยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะที่ คตส.อายัดเพิ่ม "ยิ่งลักษณ์-โอ๊ค" 232 ล้านบาท
          - ก.ล.ต.เปิดทางรายย่อยลุยตลาดหุ้นต่างประเทศโดยตรง ไม่ต้องผ่านไพรเวท ฟันด์ เว้นแต่เป็นการลงทุนในตราสารซับซ้อนไม่จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เผยวงเงินไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ผู้ลงทุนสถาบันให้ถึง 50 ล้านดอลลาร์ ด้าน สมาคม บลจ. คาดเงินไหลออกนอกร่วม 1.2 แสนล้านบาท ขณะที่ปัญหาซับไพร์มยังกดดัชนีหุ้นร่วงต่ออีก 11 จุด ต่างชาติเทขาย ร่วม 4 พันล้านบาท
          - โตโยต้าประกาศปรับลดเป้ายอดขายรถยนต์รวมทั้งตลาดลง 4.7% เหลือเพียง 6.5 แสนคัน หลังยอดขาย 7 เดือนแรกหดกว่า 10% ผลจากการเมืองไม่นิ่ง มั่นใจตลาดครึ่งปีหลังฟื้นตัว หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านและมีการเลือกตั้งภายในธ.ค.ขณะที่ตลาดส่งออกต้องแบกรับภาระค่าบาทแข็ง ระบุอัตราแลกเปลี่ยนเหมาะสม อยู่ที่ 37 บาท/ดอลลาร์
          - ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตสิ้นไตรมาสสองหดตัวลง 8.41% จากสิ้นไตรมาสแรก ลดลงทั้งยอดการใช้จ่ายในประเทศและยอดเบิกเงินสดล่วงหน้า โดยปรับลดลง 7.83% และ 11.71% ตามลำดับ ขณะที่ยอดการใช้จ่ายในต่างประเทศยังคงปรับเพิ่มขึ้น 3.88% เช่นเดียวกับยอดสินเชื่อคงค้างไตรมาสสองที่ยังเพิ่มขึ้น 1.58% จากสิ้นไตรมาสแรก