(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 30.49 จุดขณะตลาดจับตานโยบายเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 22, 2007 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายลงเพื่อดูว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้นโยบายอย่างไรอีกเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ และนายคริสโตเฟอร์ ด็อดด์ คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ ได้ประชุมร่วมกันเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 30.49 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 13,090.86 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 1.57 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 1,447.12 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 12.71 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,521.30 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.95 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวันจันทร์ที่ 3.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
นักลงทุนมีปฏิกริยาในด้านบวกต่อการแสดงความคิดเห็นของนายเบอร์นันเก้ที่กล่าวว่า เขารู้สึกไม่สบายใจที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กตอบสนองความพยายามในการสร้างเสถียรภาพในตลาดของเฟดด้วยความกังวลว่าตลาดสินเชื่อคงมาถึงภาวะวิกฤติแล้ว นอกจากนี้ เบอร์นันเก้และรมว.คลังสหรัฐกล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายวางแผนที่จะใช้ "เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่" เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ให้บรรเทาลง
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซาลงทันทีเมื่อนายเจฟฟรีย์ แล็คเกอร์ ผู้ว่าการเฟดสาขาริชมอนด์ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า "การดำเนินการใดๆก็ตาม เฟดจะต้องพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน ไม่ใช่หวังเพียงแต่จะทำให้ตลาดสงบลงชั่วคราว และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ไม่ใช่แนวทางที่เฟดจะใช้พลิกฟื้นวิกฤตการณ์ได้ทั้งหมด"
นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ เฟดได้ยื่นมือเข้าแทรกแซงในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารหลายครั้ง และล่าสุดคือประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.50% ก่อนการประชุมวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นก่อนการประชุมในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี หุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้น 10% หลังจากคันทรีไวด์ประกาศลดจำนวนเพื่อกอบกู้วิกฤตการณ์ในบริษัท ขณะที่หุ้นแคปิตอล วัน ดีดขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทได้ลดจำนวนพนักงานของบริษัทในเครือ คือ กรีนพอยท์ มอร์เกจ จำนวน 1,900 ตำแหน่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ