ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 200 จุดนับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดดัชนีลงด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 117.9 จุด หรือ 1.9% ปิดที่ 6,102.2 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,083.9-6,220.1 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.00 พันล้านหุ้น
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อปรับตัวลง โดยหุ้นธนาคารเอชเอสบีซีร่วงลง 1.9% หุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี รูดลง 3% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดิ่งลง 3.6% แม้ธนาคารได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ที่ว่า ธนาคารอาจสูญเสียเม็ดเงินมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์จากการลงทุนในตราสารหนี้ก็ตาม
ส่วนหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ รูดลง 3.1% หุ้นธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ร่วงลง 5.2% หลังจากวาณิชธนกิจเจพี มอร์แกนปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ หุ้นธนาคารเอชบีโอเสร่วงลง 2.3% หุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์ ดิ่งลง 3.9% และหุ้นนอร์ทเธิร์น ร็อคดิ่งลง 3.7%
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงได้ฉุดหุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นบีพีร่วงลง 1.9% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.4%
เทรดเดอร์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน เนื่องจากตลาดยังถูกปกคลุมด้วยความกังวลเรื่องปัญหาตลาดซับไพรม์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารถูกแรงขายทุบลงรุนแรงมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--