บล.กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,185 และ 1,170 จุดสำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 พ.ย.) ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,205 และ 1,215 จุดตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการเมือง และผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ. ของไทย ตลอดจนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผลการประชุมเฟดและความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเด็น BREXIT และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงหลุดระดับ 1,200 จุด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,194.95 จุด ลดลง 1.54% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,193.66 ล้านบาท ลดลง 15.90% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.34% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 309.56 จุด
หุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ ทิศทางเดียวกับหุ้นภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้หลายประเทศต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งซึ่งจะกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีความเสี่ยงจะออกไม่ทันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมืองในประเทศเป็นอีกปัจจัยที่กดดันบรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยด้วยเช่นกัน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุดในสัปดาห์นี้ ตามทิศทางราคาน้ำมันโลก