น.ส.อัจฉรา สุทธิศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย กล่าวว่า การที่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)เข้ามาถือหุ้นในบริษัทจะช่วยให้แผนการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ(NAV)ภายใต้การบริหารของบริษัทก้าวกระโดดเป็น 1 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมี NAV ราว 3 หมื่นล้านบาทนับตั้งแต่เปิดดำเนินการได้กว่า 2 ปี
ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นมาเป็น 1 ใน 10 บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนขนาดใหญ่ จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 15 จากทั้งหมดที่มี 18 บลจ.
ก่อนหน้านี้ ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)ขายหุ้น 40% ในบลจ.นครหลวงไทย ให้กับ กบข.
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า การร่วมลงทุนครั้งนี้ ช่วยทำให้การดำเนินงานในอนาคตของ กบข.สามารถตอบสนองความต้องการของสมาชิกในส่วนการออมเพิ่ม และเป็นทางเลือกการลงทุนให้กับประชาชนนอกเหนือจากที่ตลาดมีการออกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) โดยจะออกผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับรูปแบบการออมรองรับหลังสมาชิกกบข.เกษียณอายุแล้ว ซึ่งในปี 50 จะมีสมาชิกเกษียณอายุจำนวน 9 พันคน มีจำนวนเงินที่จะออกจากกองทุน กบข. 5.9 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บลจ.นครหลวงไทยยังมีเครือข่ายสาขาของธ.นครหลวงไทย กว่า 400 สาขาทั่วประเทศที่จะเข้าถึงประชาชนในต่างจังหวัดด้วย
ทั้งนี้ กองทุนที่คาดว่าจะจัดตั้งเป็นกองทุนแบบผสม (Balanc Fund) ที่ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้เพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากและอัตราเงินเฟ้อ
"เราไม่คิดเป็นเจ้าของ บลจ.100% และผมเคยย้ำ เราต้องการมี บลจ.เพื่อเป็นแขนขาที่ออกโครงการใหม่ๆให้สมาชิกที่ยังต้องการออมต่อไป ถ้าเรามีบลจ. เราจะขยายเครือข่าย มากกว่าสมาชิกที่มีอยู่ 1.17 ล้านคน แต่เราต้องการ ขาย product ใหม่ไปยังทุกคนได้ ให้คนที่อยู่ตามต่างจังหวัด ในหมู่บ้าน ในตำบลต่างๆเข้ามาลงทุนได้ ไม่ใช่แค่สมาชิก กบข." นายวิสิฐกล่าว
พร้อมกันนี้ในอนาคต กบข. เตรียมโอนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของกบข.เองที่มีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาทให้บลจ.นครหลวงไทยเป็นผู้บริหาร ซึ่งก็จะมีส่วนทำให้ทรัพย์สินภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นโดยเร็ว
ส่วนที่กบข.จ้าง 7 บลจ.บริหารกองทุนให้ก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
**ครึ่งปีหลังรุกกองทุน FIF กับกองทุนอสังหาฯ
น.ส.อัจฉรา กล่าวว่า แผนงานครึ่งหลังปี 50 บลจ.นครหลวงไทยจะออกกองทุนลงทุนกองทุนต่างประเทศ(FIF) จำนวน 5 กองทุน กองทุนละ 2 พันล้านบาท รวมเป็น 1 หมื่นล้านบาท โดยจะออกเดือนละกองทุน จะเริ่มออกกองแรกในกลางส.ค.นี้
ขณะเดียวกันก็จะเปิดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เออร์บาน่า หลังสวน ซึ่งเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท จะเปิดขายปลายส.ค.นี้ และ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เออร์บาน่า สาทร มูลค่าโครงการ 1.8 พันล้านบาท คาดจะเปิดขายสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะรุกธุรกิจด้านการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--