สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (26 - 30 ตุลาคม 2563) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 354,947.94 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 70,989.59 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 14% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของ ตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 57% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 201,295 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วน ใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 81,982 ล้านบาท และหุ้นกู้ ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 20,615 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23% และ 6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB386A (อายุ 17.6 ปี) LB426A (อายุ 21.6 ปี) และ LB29DA (อายุ 9.1 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายใน แต่ละรุ่นเท่ากับ 14,301 ล้านบาท 10,769 ล้านบาท และ 7,079 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY211A(AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 2,449 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รุ่น TRUE22NA (A-) มูลค่าการซื้อขาย 1,862 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) รุ่น BDMS256A (AA) มูลค่า การซื้อขาย 1,500 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 2 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% คงเป้าหมาย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% และคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2563 เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลง 5.5% ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 4.7% ขณะที่ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันที่ 26 ต.ค. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายในการประชุมเดือน ธ.ค. 63 ทั้งนี้ตลาด ติดตามผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า (4-5 พ.ย.)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (26 ต.ค. 63 ? 30 ต.ค. 63) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ -2,472 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิใน ตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) -1,040 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) +248 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดย นักลงทุนต่างชาติหมดอายุ -1,680 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (26 - 30 ต.ค. 63) (19 - 22 ต.ค. 63) (%) (1 ม.ค. - 30 ต.ค. 63) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 354,947.94 310,567.22 14.29% 17,263,287.95 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 70,989.59 77,641.81 -8.57% 85,040.83 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 117.15 117.07 0.07% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.52 104.42 0.10% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (30 ต.ค. 63) 0.48 0.53 0.53 0.67 0.87 1.41 1.61 2.18 สัปดาห์ก่อนหน้า (22 ต.ค. 63) 0.48 0.51 0.53 0.67 0.87 1.41 1.59 2.18 เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 2 0 0 0 0 2 0