ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,202.16 จุด เพิ่มขึ้น 7.21 จุด (+0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 40,738.51 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,202.55 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,191.44 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 633 หลักทรัพย์ ลดลง 791 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 449 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบไม่กว้างมาก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่โดยรวมยังบวกได้เฉลี่ย 0.8% หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาดี โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 53.6 ในเดือนต.ค. ถือว่าออกมาดีกว่าคาด และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว แม้หลายประเทศจะมีการประกาศล็อกดาวน์บางส่วน แต่ก็ยังสามารถทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้บ้าง ทำให้มองดูแล้วไม่รุนแรงเหมือนช่วงแรกที่มีการล็อกดาวน์ ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็บวกได้ราว 0.6%
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักอยู่ที่การรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ย.นี้ด้วย และในวันศุกร์นี้ก็จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศออกมา ส่วนบ้านเรายังต้องรอดูพัฒนาการทางการเมืองในประเทศ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/63
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงรอผลการเลือกตั้งสหรัฐ แต่ก็มีลุ้นฟื้นตัวได้ในช่วงสั้น พร้อมให้แนวรับ 1,190 จุด ส่วนแนวต้าน 1,210 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
STA มูลค่าการซื้อขาย 1,918.26 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,449.17 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
STARK มูลค่าการซื้อขาย 1,292.53 ล้านบาท ปิดที่ 1.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,291.15 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
STGT มูลค่าการซื้อขาย 1,166.36 ล้านบาท ปิดที่ 89.25 บาท ลดลง 2.25 บาท