นายกิตติพัฒก์ เนื่องจำนงค์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป (MODERN) เปิดเผยผ่าน "ห่วงใย Thai Business" ว่า การบริหารธุรกิจในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การผสมผสานนวัตกรรมและวิถีชีวิตจึงต้องเดินทางไปด้วยกัน จุดเริ่มต้น บริษัท Rebranding ซึ่งจะเริ่มจากข้างในด้วยการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร มีวิธีการทำงานใหม่ๆ และสื่อสารกับคนภายนอก และทำอย่างไรสื่อให้ลูกค้าเข้าใจการ Rebranding ด้วย เปลี่ยนจากเมื่อพูดถึงโมเดอร์นฟอร์มจะคิดถึงเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ทั้งๆที่บริษัทมีสินค้าหลากหลาย
บริษัทจึงมีการจับมือครั้งสำคัญกับเสี่ยวมี่เพื่อรีเฟรชแบรนด์ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ "Sensible Solution for Modern Lifestyle" ทำให้เกิดการประสานเทคโนโลยี 2 อย่างเข้าด้วยกันทั้งโนว์ฮาวเฟอร์นิเจอร์จากโมเดอร์นฟอร์ม และเทคโนโลยีจากเสี่ยวมี่
ยกตัวอย่างกระบวนการออกสินค้าใหม่ ใช้เวลาเพียง 3 เดือน จากเดิม 9 -12 เดือน เริ่มจากออกแบบจนถึงวางสินค้า ซึ่งความร่วมมือกัน เพราะหากเรายังยึดทุกอย่างเหมือนเดิมคงไม่ได้ เราต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นหัวใจเรา การทำงานกับเสี่ยวมี่ เป็นตัวอย่างที่เห็นว่าเราทำได้ เมื่อทำได้ก็สามารถเปิดประตู ท้าทายมากขึ้น
นายกิตติพัฒก์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับเสี่ยวมี่เป็นโครงการระยะยาว โดยขณะนี้เป็นเฟสแรก ซึ่งเสี่ยวมี่เป็นผู้ผลิตหลากหลายสินค้าและมีดีไซน์ ซึ่งช่วยบริษัทได้ดี เหตุผลที่เสี่ยวมี่เลือกโมเดอร์นฟอร์ม เพราะบริษัทเข้าใจปัญหาที่คนเข้าใจว่าเสี่ยวมี่เป็นบริษัทมือถือ แต่เขาต้องการเป็น IoT (internet of Thing) ซึ่งบริษัทเฟอร์นิเจอร์ช่วยเขาได้มาก จึงได้มีการพูดคุยว่าเราสามารถเข้าใจลูกค้าได้ดี ทางเสี่ยวมี่จึงเสนอชื่อโมเดอร์นฟอร์มไปถึงสำนักงานใหญ่ที่ประเทศจีน ทำให้เกิดความร่วมมือทำงานด้วยกัน เพราะแม้ว่าโมเดอร์นฟอร์มเป็นบริษัท local แต่บริษัทเข้าใจลูกค้าของเรา ซึ่งปัจจุบันเราต้องการลงลึกกับลูกค้า ทั้งความพึงพอใจ ความสำเร็จ
"ในช่วงโควิดระบาด พีคๆ มองเป็นโอกาสปรับเปลี่ยน ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส สามารถ ทำงานสู่ออนไลน์ โดยช่องทางออนไลน์ มียอดขายโตขึ้น 5-6 เท่า สินค้าที่ขายเป็นราคาเฉลี่ย 1 หมื่นกว่าบาท และสามารถพิสูจน์ว่าทำได้ บางทีมีไอเดียเราทำผิด แต่ไม่ใช่ไอเดียไม่ผิด ช่วงโควิดได้ปรับเปลี่ยนหลายเรื่อง รวมทั้งการร่วมทำงานกับเสี่ยวมี่ และเรามีโครงการศึกษากันอยู่อาจทำเพิ่มเติมในปี 64"นายกิตติพัฒก์ กล่าว
ในมุมมองบริษัท จากความต้องการ space ทำงานที่น้อยลง แต่ถ้าดูลึกเข้าไป ลูกค้าให้ความสนใจ productivity ซึ่งเราจะสามารถช่วยได้อย่างไร เพราะมองเฟอร์นิเจอร์สำนักงานทำให้คนทำงานได้สบาย เราก็ต้องคิดว่าจริงๆ แล้วมีอย่างอื่นที่ช่วยเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ภาพใหญ่คือเราอยากสร้างนวัตกรรม ซึ่งบริษัทเติบโตจากนวัตกรรม ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน และก็ต้องทำได้รวดเร็วกว่าเดิม