หุ้น CK และ CKP ราคาขยับขึ้น โดยเมื่อเวลา 10.30 น.หุ้น CK บวก 1.31% มาอยู่ที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 32.14 ล้านบาท
หุ้น CKP บวก 4.42% มาอยู่ที่ 4.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 108.96 ล้านบาท
หุ้น BEM บวก 0.60% มาอยู่ที่ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท มูลค่าซื้อขาย 20.04 ล้านบาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ช.การช่าง (CK) ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 20.50 บาท (ปรับลงเล็กน้อยจากเดิมที่ 20.80 บาท) อิง SOTP ประเมินกำไรปกติไตรมาส 3/63 ที่ 335 ล้านบาท +63% YoY, +425% QoQ ผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่นหลัก ๆ หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม บมจ.ซีเค พาวเวอร์(CKP) ที่พลิกเป็นกำไรจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตแล้วตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ขยายตัวดีเช่นกันจากจำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่กลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ ประเมินรายได้ธุรกิจก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย +1% QoQ ตาม progress งานก่อสร้างที่ทำได้ดีขึ้นหลังการคลายล็อกดาวน์
ทั้งนี้ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ขึ้น +12% เป็น 378 ล้านบาท ตามการปรับสมมติฐานส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม BEM ขึ้น แต่ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 ลง -14% อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนงานรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่ยังไม่เห็นความชัดเจนเรื่องการแบ่งงานก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม มองว่า backlog ของ CK ยังอยู่ในทิศทางที่ดี และจะกลับไปแตะระดับ 1.3 แสนล้านบาทในปี 2564 หนุนโดยงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่ของ CKP
ด้านราคาหุ้น CK ปรับตัวลง และ underperform SET -7% ในช่วง 3 เดือน จากความกังวลสถานการณ์การเมืองและการประมูลสายสีส้มที่มีโอกาสยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่า backlog บริษัทจะกลับสู่ช่วงขาขึ้นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า หนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่ของ CKP ที่มีมูลค่าสูงราว 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการประมูลโครงการรัฐที่อาจล่าช้า