(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดดีดขึ้น 150.38 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 2, 2007 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 150 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไรและจากการที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 1 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตลาดเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวันเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดปล่อยกู้จำนองและตลาดสินเชื่อในสหรัฐ 
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 150.38 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 13,362.37 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 10.54 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 1,465.81 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 7.60 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 2,553.87 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.42 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 19 ต่อ 14 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 3.01 พันล้านหุ้น
นายอาร์เธอร์ โฮแกน นักวิเคราะห์จากบริษัทเจฟเฟอร์รีส์ แอนด์ โค กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน โดยดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนตัวอยู่ทั้งในแดนลบและแดนบวก อย่างไรก็ตาม แรงซื้อเก็งกำไรที่ส่งเข้ามาในช่วง 20 นาทีสุดท้ายได้ช่วยพยุงดาวโจนส์ให้สามารถปิดในแดนบวกได้สำเร็จ แต่ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับอิทธิพลจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพร์ม) และตลาดสินเชื่อในสหรัฐ"
"ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่ร่วงลง 1.68 แตะระดับ 76.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ ยอดขายบ้านที่แข็งแกร่งเกินคาด" นายโฮแกนกล่าว
ด้านนายปีเตอร์ ดูเนย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลี้บ แคปิตอล เมเนจเมนท์คาดว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์จะเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นเมื่อมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น และการที่ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้เขาก็เชื่อว่าเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์เช่นกัน
สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 53.8 จุด ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.0 จุด
ทั้งนี้ หุ้นดาวโจนส์ แอนด์ โค พุ่งขึ้น 72 เซนต์ ปิดที่ 58.10 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นนิวส์ คอร์ป ดีดขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 22.82 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทดาวโจนส์ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยืนยันว่า บริษัทบรรลุข้อตกลงขายกิจการให้กับบริษัทนิวส์ คอร์ป ของนายรูเพิร์ต เมอร์ด็อค มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ร่วงลง 3.2% แม้บริษัทเปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ปรับตัวขึ้น 5% ส่วนหุ้นอาร์เซลอร์ มิทตัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้น 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 2 มูลค่า 2.72 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ระดับ 1.82 พันล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ