นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า บลจ.ทิสโก้ ออกกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ใหม่ที่มีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทั้งหุ้นไทย และหุ้นต่างประเทศ เพิ่มเติมอีก 4 กองทุน โดยจะเปิดให้ลงทุนได้ทุกกองทุนตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อให้สินทรัพย์การลงทุนระยะยาวในพอร์ตลงทุนของลูกค้ามีความหลากหลาย รวมถึงมีส่วนช่วยเพิ่มทางเลือกสำหรับวางแผนภาษีในช่วงปลายปี 63
สำหรับ 4 กองทุน SSF ใหม่ ได้แก่ 1. กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TSF-SSF) กองทุนรวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี ที่ผ่านการคัดสรรจากผู้จัดการกองทุน โดยใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก 2. กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TISCOMS-SSF) กองทุน รวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหุ้นไทยที่มีมูลค่าตลาดไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ใน SET และ/หรือ mai ใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก
3. กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า A-Shares อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TISCOCHA-SSF) กองทุน รวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนใน ETF หุ้นจีน ที่อิงดัชนี CSI 300 ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง 4. กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า เทคโนโลยี อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TCHTECH-SSF) กองทุนรวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนใน ETF หุ้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีน ที่อิงดัชนี FTSE China Incl A25% Technology Capped ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม และลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
นายสาห์รัช กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุน SSF ที่ บลจ.ทิสโก้นำเสนอไปก่อนหน้านี้มี 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TINC-SSF) กองทุนรวมผสม ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย อาทิ ตราสารหนี้ไทย หุ้นไทย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดี เป็นต้น และกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุน เพื่อการออม ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TEG-SSF) กองทุนรวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหุ้นไทยโดยกระจายการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก
สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ซื้อ หรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน SSF ที่ร่วมรายการระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 มกราคม 2564 ทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท (1 รายต่อ 1 สิทธิ์)