(เพิ่มเติม) JUTHA เตรียมปรับขึ้นค่าระวางเรือ 2 ลำ 10% ใน ต.ค.และ ธ.ค.นี้

         นายชเนศร์ เพ็ญชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.จุฑานาวี (JUTHA) กล่าวว่า บริษัทเตรียมปรับค่าระวางเรือเพิ่ม 10% จากจำนวนเรือ 2 ลำ ในไตรมาส 4/50 โดยจะเป็นการทยอยปรับในเดือน ต.ค. 1 ลำ และ ธ.ค.อีก 1 ลำ ซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/50  ที่มีรายได้ 152 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการนำเรือเข้าอู่จำนวน 3 ลำ ทำให้รายได้ลดลงเพราะเรือหยุดทำงาน ซึ่งกระทบต่อรายได้คิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/49 
          นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้รายได้ลดลงจากเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลให้รายได้หายไป 30 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้คาดว่ารายได้ปีนี้ทั้งปีคงจะลดลงเหลือ 700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 800 ล้านบาท  
          อย่างไรก็ตาม ถึงแม้รายได้ในปีนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ในส่วนของกำไรยังเชื่อว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่ 191 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีกำไรจากการขายเรือแล้วในช่วงไตรมาส 2/50 จำนวน 60-70 ล้านบาท 
          นายชเนศร์ กล่าวต่อว่า จากค่าเงินที่แข็งค่าบริษัทก็จะใช้จังหวะตรงนี้ในการซื้อเรือเพิ่มจำนวน 2 ลำ โดยมีอายุไม่เกิน 10 ปี ซึ่งการซื้อเรือดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับโอกาสและราคาแต่ก็อยากเห็นเรือเพิ่ม 1 ลำในปีนี้
          นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการสั่งซื้อเรือจำนวน 1 ลำ มูลค่า 600 ล้านบาท เรือดังกล่าวจะได้ในปี 2552 เพื่อมาทดแทนเรือที่ขายไป เรือที่สั่งซื้อจะเป็นการทยอยจ่ายในปีนี้และปีหน้า 
          สำหรับเรื่องการจ่ายปันผล ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการหารือในคณะกรรมการบริษัทแต่ทางคณะกรรมการอยากจะขอพิจารณาดูงบในไตรมาส 3 ก่อน เนื่องจากต้องยอมรับว่ารายได้ของบริษัทผูกกับเงินดอลลาร์ซึ่งมีความผันผวนและทำให้รายได้ลดลงไปจึงอยากที่จะพิจารณาดูงบฯตรงนี้ก่อน แต่ในส่วน Gross margin จะคงไว้ที่ 38% และ Net profit margin ที่ 20% ในปีนี้
          "การที่บาทแข็งค่าทำให้รายได้เราลดลง แต่เป็นโอกาสในการซื้อทรัพย์สินเป็นดอลลาร์เข้ามา แต่เราก็ไม่อยากใช้วิธีนี้ทำกำไร และการที่เรามีเรือทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ทำให้รองรับความเสี่ยงเมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงได้" นายชเนศร์ กล่าว