นายสุรวัฒน์ สุวรรณยั่งยืน ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บมจ.ไซมิส แอทเสท (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2563 แก่นักลงทุนรายใหญ่เมื่อวันที่ 9, 12 และ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถปิดการขายหุ้นกู้มูลค่า 600 ล้านบาท ได้ตามเป้าอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพธุรกิจ ฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และโอกาสการเติบโตของบริษัท โดยมีบล.เคทีบี (ประเทศไทย) และบล.กรุงไทย ซีมิโก้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้
สำหรับหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ มีอายุ 1 ปี 5 เดือน 24 วัน ครบกำหนดอายุวันที่ 8 เมษายน 2565 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2564 เป็นต้นไป กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน หรือทุกวันที่ 15 มกราคม 15 เมษายน 15 กรกฎาคม และ 15 ตุลาคม ของแต่ละปี ตลอดอายุหุ้นกู้ เริ่มจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 15 มกราคม 2564
โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรตติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ที่ระดับ BB+ แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่"
"การออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้ ซึ่งมีปัจจัยมาจากความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่ดีของบริษัท ประกอบกับอัตราผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน โดยหลังจากนี้ บริษัทเตรียมนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้เพื่อชำระคืนตั๋วแลกเงินและชำระคืนหุ้นกู้ 2 รุ่น ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคมนี้ และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและลงทุนโครงการใหม่ในอนาคต"นายสุรวัฒน์ กล่าว
นายสุรวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการนำหุ้นของ SA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ปัจจุบันได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้บริษัท และบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ได้เตรียมความพร้อมและอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจ สภาวะตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม บริษัทพร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และนำหุ้นของ SA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป