(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 35.52 จุดขานรับเฟดแถลงการณ์เป็นบวก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2007 06:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในระดับปานกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อไม่ได้สร้างความเสียหายต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 35.52 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 13,504.30 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.04 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 1,476.71 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 14.27 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 2,561.60 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.25 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 19 ต่อ 14 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.84 พันล้านหุ้น
เฟดตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้เท่าเดิมที่ระดับ 5.25% อีกครั้ง แต่นักลงทุนให้น้ำหนักกับแถลงการณ์ของเฟดที่ระบุว่า "เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวขึ้นในระดับปานกลางในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวในระดับปานกลางในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวด้านการจ้างงาน รายได้ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง"
อย่างไรก็ตาม เฟดยอมรับว่าตลาดการเงินเผชิญภาวะผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มธุรกิจและครัวเรือนมีความเข้มงวดมากขึ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่ในภาวะปรับฐานลง นอกจากนี เฟดยังกังวลเรื่องแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมากกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง
นายโรเบิร์ต ออเวร์เทอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทแวนการ์ด กรุ๊ป กล่าวว่า "เฟดพยายามจะส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่ดี แม้เฟดแสดงออกชัดเจนว่ายังกังวลเรื่องเงินเฟ้อก็ตาม"
"แม้ว่านักลงทุนค่อนข้างพอใจกับแถลงการณ์ของเฟดและมุมมองที่เฟดมีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ แต่การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้น 36 เซนต์ แตะระดับ 72.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้สกัดดาวโจนส์ไว้ ซึ่งทำให้ดัชนีบวกขึ้นไม่มากนัก" นายออเวร์เทอร์กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นบริษัทมาร์ช แอนด์ แมคเลนแนน ซึ่งเป็นอินชัวรันซ์โบรกเกอร์รายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ ร่วงลง 5.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 2 ที่ขยับขึ้นเพียง 3% ขณะที่หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 5.4% แม้บริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 2 ปรับตัวลงก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ