นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซันสวีท (SUN) เปิดเผยว่า ในปี 64 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% จากปี 63 โดยการเติบโตในปี 64 จะมาจากปัจจัยสนับสนุนของยอดออเดอร์ของลูกค้าในต่างประเทศที่บริษัทได้มีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากการพูดคุยทางการค้าผ่านระบบออนไลน์ ประกอบกับบริษัทได้เตรียมแผนการรองรับเกี่ยวกับผลผลิตข้าวโพดที่จะออกมาในช่วงต้นปี 64 ไว้แล้ว ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการเดินหน้าผลิตและส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ในปี 64 บริษัทจะพยายามผลักดันการใช้กำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ตัน จากปีนี้ที่คาดว่าจะใช้ 140,000-150,000 ตัน ประกอบกับการผลักดันกลุ่มสินค้าพร้อมทานให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 250-300 ล้านบาทในปี 64 จากปีนี้ที่มียอดขายที่ 100 ล้านบาท โดยในปี 64 คาดว่าไลน์การผลิตสินค้าพร้อมทานแห่งใหม่ 2 ไลน์การผลิต จาก 5 ไลน์การผลิต จะพร้อมเดินเครื่องการผลิตเชิงพาณิชย์ และจะมีสินค้าใหม่ๆออกมานำเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นการเพิ่มสินค้าให้ลุกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่เพิ่มมูลค่าและมีมาร์จิ้นสูง ช่วยหนุนผลงานของบริษัทได้อย่างดี
ขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาการลงทุนด้านการขนส่งสินค้าเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนการขนส่งเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ตามยอดขายที่เติบโต ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านขนส่งมีจำนวนมากบริษัทจึงมองเป็นโอกาสอีกทางหนึ่งในการลดต้นทุนด้วย พร้อมกับเตรียมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพื่อนำไฟฟ้ามาใช้ในโรงงาน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เพื่อนำของเสียและขยะที่เหลือจากการผลิตกลับมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยที่ในปี 64 บริษัทยังเดินหน้าบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดต้นทุน ร่วมกับการนำเสนอสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงออกมาทำตลาด เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้เพิ่มขึ้น
ขณะที่ผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯที่ออกมานายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง นายองอาจ มองว่าเป็นผลบวกต่อธุรกิจของบริษัทจากแนวโน้มของการกีดกันทางการค้าในหลายๆประเทศจะผ่อนคลายลง โดยเฉพาะประเทศที่เป็นลูกค้าสั่งซื้อสินค้าของบริษัทที่ถูกกีดกันทางการค้า ได้แก่ อิหร่าน ตุรกี และบางประเทศในเอเชีย ทำให้บริษัทมีโอกาสกลับมาทำตลาดในประเทศที่เคยถูกกีดกันทางการค้าในช่วงที่ผ่านมาได้มากขึ้น ช่วยหนุนรายได้ให้กับบริษัท