นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บมจ. พราว เรียล เอสเตท (PROUD) ชี้แจงผลประกอบการงวดไตรมาส 3/63 ว่า บริษัทมีรายได้ 170.41 ล้านบาท ขยายตัว 853% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการที่บริษัทสามารถปิดการขายและโอนโครงการคอนโดมิเนียมระดับบน โฟคัส เพลินจิต จำนวน 30 ห้อง
ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.65 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้ทุ่มงบลงทุนเพื่อจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงวิกฤตแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ระดับ 19% ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 3/62 บริษัทมีรายได้จากการขายเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า 20.41 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 3 ของปีนี้บริษัทมีรายได้อื่น 12.74 ล้านบาท ลดลง 9.22 ล้านบาท
"ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศเติบโตถดถอย และสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ยังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างเฝ้าระวัง และไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีข้อยุติได้อย่างไร ดังนั้นสิ่งที่บริษัทต้องเร่งดำเนินการคือการเตรียมตัวให้พร้อมในเรื่องของการเงิน การพัฒนาในแต่ละโครงการต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ในเรื่องทำเล รวมถึงต้องทำการศึกษาและวิจัยเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และข้อสำคัญต้องเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้ออย่างแท้จริง"นายพสุ กล่าว
นายพสุ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเป้าหมายภายใน 5 ปีจะสร้างรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การพัฒนาของบริษัทฯ โดยหลักๆ จะมาจากโครงการ InterContinental Residences Hua Hin ที่พักอาศัยระดับบนใน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการ 3,515 ล้านบาท จำนวน 238 ยูนิต ขณะนี้มียอดขายแล้วเกินกว่า 65% คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะโอนได้ช่วงต้นปี 65 และโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ในอำเภอหัวหินเช่นกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและออกแบบ มูลค่าไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท