(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 100.96 จุดขานรับผลประกอบการเอกชน

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยดัชนีทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน และข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังอยู่ในภาวะที่ดี
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 100.96 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ระดับ  13,463.33 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 6.39 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 1,472.20 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น  22.82 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 2,575.98 จุด
          ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.98 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 และปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.54 พันล้านหุ้น
          นางแจนนา แซมป์สัน นักวิเคราะห์จากบริษัทโอ๊คบรู้ค อินเวสเมนท์กล่าวว่า นักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทโนเกีย คอร์ป และรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าสถานการณ์ในตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง
          นักลงทุนจับตาดูข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างใกล้ชิด ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนางแซมป์สันกล่าวว่า "ปัจจัยลบหลายอย่างทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันชะลอการใช้จ่าย โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะยอมออกมาจับจ่ายใช้สอยก็ต่อเมื่อมีงานทำ ดังนั้น การที่ตัวเลขผู้ว่างงานลดน้อยลงจึงทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับทันที"
          "อย่างไรก็ตาม แม้ดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด แต่ภาวะการซื้อขายยัวคงผันผวน เนื่องจากความกังวลเรื่องตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์ และราคาน้ำมันดิบที่ยังเคลื่อนไหวในระดับสูง อันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 33 เซนต์ แตะระดับ 76.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล" นางแซมป์สันกล่าว
          ทั้งนี้ หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 8.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 2 พุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าเนื่องจากยอดขายที่แข็งแกร่ง
          ขณะที่หุ้นเลียร์ คอร์ป ดีดขึ้น 2.3% เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทออกมาสูงกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ และหุ้นซีวีเอส แคร์มาร์ค ดีดขึ้น 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งเกินคาด