(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดลบ 0.7 จุดขณะนลท.รอลุ้นผลประชุมบีโอเจ

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับลงในวันนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ปลีกตัวออกไปอยู่นอกตลาดในระหว่างรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิขยับลง 0.7 จุด ปิดที่ 15,900.64 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 15,787.96 -15,957.96 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.66 พันล้านหุ้น ลดลงจากวานนี้ที่ 2.04 พันล้านหุ้น
          นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า บีโอเจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมเนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่าบีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ 
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับความเป็นไปได้ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นเพื่อลดความผันผวนในตลาดโลก หลังจากที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไปแล้ว 0.50% เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
          นายเรียวตะ โอทสึกะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โตโยกล่าวว่า "นักลงทุนไม่ได้รับปัจจัยใหม่ๆเข้ามาชี้นำในวันนี้ เพราะส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้แล้วว่าบีโอเจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ ยังจับตาดูแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการบีโอเจ"
          ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดรู้สึกไม่สบายใจที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กตอบสนองความพยายามในการสร้างเสถียรภาพในตลาดของเฟดด้วยความกังวลว่าตลาดสินเชื่อคงมาถึงภาวะวิกฤติแล้ว นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยืนยันว่า เฟดจะใช้"เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่" เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
          "การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นเพียงการเคลื่อนไหวทางจิตวิทยาเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถแก้ไขวิกฤติสินเชื่อได้ ทั้งนี้ นักลงทุนติดตามดูว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ดังกล่าว" นายโอทสึกะกล่าว
          ทั้งนี้ หุ้นโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (TEPCO) ร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัทประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อแก้ไขภาวะขาดแคลนไฟฟ้าในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายต่อโรงงานพลังงานนิวเคลียร์
          ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทปล่อยกู้ปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานทางหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อวานนี้ว่า บริษัทเจนเนอรัล อิเล็คทริกของสหรัฐกำลังพิจารณาขายธุรกิจบริการด้านการเงินให้กับผู้บริโภคในญี่ปุ่น โดยหุ้นไอฟูลพุ่งขึ้น 2.5% และหุ้นพร็อมมิสดีดขึ้น 2.4%