นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ บมจ.ทีคิวเอ็มคอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายเบี้ยประกันภัยรับในปี 63 มีโอกาสทะลุเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านบาท หลังจาก 9 เดือนทำได้แล้ว 1.29 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อว่าในไตรมาส4/63 จะเป็นไตรมาสที่ทำผลงานออกมาได้ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อประกันใหม่และต่อประกันเดิ่มมากขึ้น ช่วยหนุนผลงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ให้โดดเด่น และผลักดันผลงานทั้งปีเกินเป้าหมาย
ช่วงที่เหลือของปี 63 ต่อเนื่องถึงปี 64 บริษัทจะยังเดินหน้าความร่วมมือใหม่ๆ กับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยมีดีลร่วมกับพันธมิตรที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 6 ดีล ที่จะทยอยเปิดตัวออกมา
นายอัญชลิน เปิดเผยว่า สำหรับการขยายตลาดธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยของบริษัทในต่างประเทศได้มีการจัดตั้งบริษัท ทีโอ 2020 จำกัด (TO 2020) โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.99 % มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทร่วมทุน (JV) กับกลุ่มบริษัท Asia Investment and Financial Services Co., Ltd. (AIF) ในนามบริษัท BIC Insurance จำกัด เพื่อเปิดตลาดประกันภัยในประเทศกัมพูชาร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะเป็นประเทศแรกที่บริษัทจะขยายตลาดเข้าไป โดยจะดำเนินธุรกิจแบบ B2B เป็นหลักในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ โดยตั้งเป้ายอดขายเบี้ยประกันภัยรับในกัมพูชาปีแรก 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โอกาสของการขยายตลาดในกัมพูชาที่เริ่มจากกบรเจาะกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจก่อน เพราะในประเทศกัมพูชามีนักธุรกิจที่เข้าไปลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารต่างๆ ค่อนข้างมาก และกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความต้องการซื้อประกันภัยเพื่อประกันความเสี่ยงในการลงทุน และตลาดยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าตลาดเบี้ยประกันภัยในกัมพูชาสูงกว่า 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 6 พันล้านบาท
ประกอบกับพันธมิตรของบริษัทในกัมพูชามีฐานลูกค้าและมีช่องทางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้กับลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้เป็นโอกาสในการสนับสนุนบริษัทให้สามารถเข้าขยายตลาดได้ง่ายขึ้น และในอนาคตจะขยายไปสู่ B2C ต่อไป เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในระยะยาวให้กับบริษัท
ส่วนการขยายตลาดไปยังลาวนั้น บริษัทจะเริ่มดำเนินงานในช่วงปลายไตรมาส 1/64 เป็นต้นไป โดยจะทำร่วมกับพันธมิตรที่มีฐานลูกค้าในลาวเช่นเดียวกัน แต่จะเน้นไปในรูปแบบ B2C เป็นหลัก เพราะรัฐบาลลาวสนับสนุนการซื้อประกันภัยมากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงให้กับประชาชน และตรงกับวิสัยทัศน์ของ TQM ที่ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงประกันภัยหลากหลายรูปแบบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในชีวิตของทุกคน และตลาดประกันภัยในลาวถือว่ามีการเติบโตค่อนข้างมาก โดยมีมูลค่าตลาดสูงกว่ากัมพูชาเล็กน้อยที่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีโอกาสเข้าไปขยายตลาด และช่วยผลักดันธุรกิจของบริษัทเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทยังมองโอกาสขยายตลาดในเวียดนาม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับพันธมิตรในกัมพูชาและลาวที่มองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาด ซึ่งบริษัทจะนำโมเดลธุรกิจในกัมพูชาและลาวไปใช้ คือการเข้าไปลงทุนร่วมกับพันธมิตร
นายอัญชลิน กล่าวอีกว่า บริษัทยังมองไปถึงการนำบริษัท ทีโอ 2020 จำกัด เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต เพื่อต่อยอดการเติบโตให้กับบริษัท โดยในปี 64 บริษัทจะนำ บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการยื่นไฟลิ่ง
"การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเป็นส่นหนึ่งที่จะผลักดันให้ TQM เติบโตไปต่อได้ตามเป้าหมายปี 69 มีเบี้ยประกันภัยรับแตะ 5 หมื่นล้านบาท แต่ช่วงแรกของการเริ่มต้นก็ยังมีความท้าทาย แต่เราได้พันธมิตรที่ดีเข้ามาร่วมลงทุน ทำให้เรามั่นใจในการเดินหน้าธุรกิจในต่างประเทศค่อนข้างมาก และจะเป็นปัจจัยหนุนผลักดันผลงานให้กับธุรกิจในปีต่อๆไป"นายอัญชลิน กล่าว