นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรร่วมลงทุนในโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในสหรัฐ หลังจากที่ Daelim Industrial Co.,Ltd. (DAELIM) พันธมิตรจากเกาหลีใต้ ได้ถอนตัวออกไป ขณะที่การทบทวนแผนลงทุนจะต้องให้มีความละเอียดมากขึ้น เนื่องจากเงื่อนไขการตัดสินใจลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลังเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวจากสถานการณ์โควิด-19 และโครงการจำเป็นต้องหาพันธมิตรร่วมทุน ซึ่งหากไม่มีพันธมิตรร่วมทุนบริษัทก็จะไม่ลงทุนในโครงการนี้ เพราะเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในกลางปี 64
ส่วนการที่สหรัฐได้นายโจ ไบเดน เป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่นั้น คาดว่านายไบเดน ซึ่งมีลักษณะของการประนีประนอม ก็น่าจะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนผ่อนคลายลง ซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นก็จะส่งผลดีกับความต้องการใช้ปิโตรเคมีให้ดีขึ้นด้วย และเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นก็จะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐของบริษัทด้วย
ขณะที่แผนลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาหลายโครงการในต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นเข้าซื้อกิจการในโครงการที่บริษัทยังไม่มีสายการผลิต เช่น โรงงานเม็ดพลาสติกวิศวกรรมประเภทพีพีคอมพาวด์ เพื่อให้สามารถขยายตลาดเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ได้รวดเร็วขึ้น เป็นการขยายเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ และ High Value Product (HVP) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างครบถ้วน สำหรับตลาดทั่วโลก ซึ่งบริษัทพยายามที่ได้ดีล M&A ภายในปี 64
สำหรับความคืบหน้าโครงการลงทุนโรงงานพลาสติกชีวภาพชนิด Polylactic Acid (PLA) ในไทยนั้น ขณะนี้ยังรอความชัดเจนจาก NatureWorks ว่าจะตัดสินใจตั้งโรงงาน PLA ในประเทศไทยหรือไม่ โดยโรงงานดังกล่าว นับเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์เฟสที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 64