นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) กล่าวว่า ผลการดำเนินงวด 9 เดือนแรกปี 2563 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 36.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.85 ล้านบาท หรือ 60.1% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมทั้งหมด 385.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.41 ล้านบาท หรือ 53% โดยมีรายได้หลักจากใบอนุญาตการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ การขายและให้บริการ อยู่ที่ 382.82 ล้านบาท คิดเป็น 99.4% ของรายได้ทั้งหมด และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ อีก 2.33 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.6%
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายและการให้บริการ ให้คำปรึกษาติดตั้งระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีรายได้หลักมาจากธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) คิดเป็น 60.7% ของรายได้ โดยมีรายได้อยู่ที่ 233.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.92 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 35.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากจากลูกค้ารายใหญ่ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่ในธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัย
สำหรับรายได้จากธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) คิดเป็นสัดส่วน 35.3% ของรายได้ โดยมีรายได้อยู่ที่ 135.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 77.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในส่วนของรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ (Brand Strategy) การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management) ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่เริ่มจัดตั้งเมื่อปี 2562 นั้น มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็นสัดส่วน 3.5% โดยมียอดขายและบริการรวม 13.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.89 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 800.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าการเติบโตของการบริการและยอดขายจะเป็นไปอย่างมั่นคงและต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทที่วางไว้ โดยบริษัทต้องการสร้างการบริการแบบครบวงจรเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า
"ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทน่าจะยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด -19 ที่ทำให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้บริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้น และสามารถขยายตลาดไปยังธุรกิจใหม่ ๆ จึงมองว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้"นายสมชาย กล่าว