บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 362.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 323.95% จากไตรมาส 3/62 ที่มีกำไร 85.61 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการประกอบธุรกิจและการลงทุน 569.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.16% จากไตรมาส 3/62 ซึ่งมีรายได้ 299.74 ล้านบาท
บริษัทได้รับอานิสงส์บวก จากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน บมจ. อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ซึ่งถือหุ้นอยู่ 40.08% ในไตรมาส 3/63 ได้รับส่วนแบ่งกำไร 355.27 ล้านบาทที่มาจากการขายเงินลงทุนในธุรกิจพลังงานบางโครงการของ บมจ.อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ (ETP) และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ ETP เมื่อวันที่ 13 พ.ย.63 ยังมีมติให้ ETP จ่ายเงินปันผล 0.15 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 23 พ.ย.63 ดังนั้น ในไตรมาส 4/63 EP จะมีรายได้เงินปันผลในงบเฉพาะกิจการ ซึ่ง AQUA คาดว่าจะได้รับผลดีจากการพิจารณาจ่ายเงินปันผลของ EP ด้วย
ด้านรายได้และกำไรจากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านของบริษัท ซึ่งบริหารและจัดการภายใต้แบรนด์ AQUA ก็ฟื้นตัวได้ดีเกินคาดหมาย หลังจากประเทศไทยได้ผ่อนคลายล็อกดาวน์ ผู้คนมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ลูกค้ากลับมาลงโฆษณามากขึ้น ในไตรมาส 3/63 ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านจึงทำรายได้ได้ถึง 128.90 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2/63 รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.29 (QOQ) โดยสื่อ LED ได้รับการสนใจจากเจ้าของสินค้าในอันดับต้นๆ เนื่องจากมีคล่องตัวสูงในการเข้าใช้บริการสื่อ และสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วในเวลาเดียวกัน ส่วนป้ายนิ่งอาจจะต้องรอให้มีการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นปกติก่อน เนื่องจากบริษัทมีป้ายที่สร้างรายได้สูงอยู่ในเส้นทางขาเข้า-ออกสนามบินจำนวนหลายป้าย และมีขนาดใหญ่
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เป็นธุรกิจที่มีรายได้ค่อนข้างคงที่ เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้ให้เช่าและบริการตามสัญญาเช่าระยะยาว ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปด้วย ผลการดำเนินงานงานจึงค่อนข้างมีความผันผวนน้อยมาก
นางสาวเรวดี หวานชิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัญชีการเงิน AQUA เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของ AQUA เองในช่วงไตรมาส 3/63 ดีขึ้นตามที่เราคาดหมายไว้ ซึ่งในไตรมาส 4/63 รายได้สื่อโฆษณานอกบ้านมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากไตรมาส 3/63 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เจ้าของสินค้าเริ่มใช้งบโฆษณาผ่านสื่อโฆษณานอกบ้านมากขึ้น
ส่วนปี 64 เราได้เตรียมความพร้อมรองรับ Demand ที่กำลังจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน AQUA เตรียมลงทุนขยายป้ายLED ในโลเคชั่นระดับ A+ เพื่อส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นเท่าตัว"นางสาวเรวดี กล่าว
ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรที่ได้จากการลงทุนในหุ้น EP สำหรับไตรมาส 3/63 ถือว่าดีมาก โดย EP รับรู้กำไรจาก ETP ที่ขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย 4 โรงและที่ญี่ปุ่นอีก 3 โรง ซึ่งการตัดสินใจขายครั้งนี้ถือว่าเพื่อรับรู้กำไรเร็วขึ้น และนำเงินไปลงทุนในโครงการพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ คาดว่า COD ได้ในเดือน ต.ค.64 ซึ่งมีอัตราผลตอบแทน (IRR) ที่ดีประมาณการในระดับ 20-25%
"การตัดสินใจเข้าลงทุนนี้ของ AQUA สะท้อนว่าเรามีมุมมองและศึกษาถึงโอกาสการลงทุนที่คุ้มค่ามาเป็นอย่างดีแล้ว ต่อไปแผนการลงทุนในอนาคตของเราจะยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น ในทุกธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนจะมีความคุ้มค่าและผลตอบแทนที่มั่นคง"นางสาวเรวดี กล่าว
นอกจากนั้น AQUA อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อออกหุ้นกู้วงเงินราว 1พันล้านบาท นำเงินไปใช้ลงทุนขยายธุรกิจสื่อนอกบ้านเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเท่าตัว โดยเป็นหุ้นกู้ที่มีหลักประกัน และมีการจัดอันดับเครดิตองค์กร มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อช่วงต้นเดือน ธ.ค.63 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) บล.กรุงไทย ซีมิโก้ บล.คิงส์ฟอร์ด บล.ไอร่า และ บล.เออีซี