นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตแตะ 25,000 ล้านบาท หลัง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.63) มียอดขายแล้ว 22,000 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่ 21,000 ล้านบาทไปแล้ว จากการปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก สร้างทีม Everyone Can Sell และปรับรูปแบบการเปิดโครงการใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของลูกค้า ด้วยการใช้แพลตฟอร์มขายผ่านช่องทางออนไลน์ 100%
ขณะที่ไตรมาส 4/63 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมดรวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ได้แก่ แบรนด์ ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) สุขุมวิท-พระราม 4 มูลค่า 2,300 ล้านบาท, THE ORIGIN E22 STATION มูลค่า 1,600 ล้านบาท, THE ORIGIN PLUG&PLAY RAMINTRA มูลค่า 700 ล้านบาท, SOHO BANGKOK RATCHDA มูลค่า 1,700 ล้านบาท, BELGRAVIA exclusive pool villa bangna-rama 9 มูลค่า 1,800 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยว GRAND BRITANIA บางนา-กม.12 มูลค่า 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาได้ทยอยเปิดตัวโครงการดังกล่าวไปบ้างแล้ว และเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการเพิ่มเติมอีก 3 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจากการเปิดตัวโครงการใหม่ดังกล่าว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม 3 โครงการคาดว่าจะทำยอดขายพรีเซลได้ราว 50% ขณะที่คอนโดมิเนียมแบรนด์ ไนท์บริดจ์ (Knights Bridge) สุขุมวิท-พระราม 4 ทำยอดขายได้แล้วถึง 90%
นายพีระพงษ์ กล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/63 บริษัทคาดว่าจะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ จากมียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ค่อนข้างสูง จากโครงการใหม่ที่ทยอยแล้วเสร็จ 8 โครงการ ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมก็มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ราว 80-90% ซึ่งบางส่วนจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ ขณะเดียวกันบางส่วนจะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรจากเป็นโครงการร่วมลงทุน