นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปี 64 จะสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับปี 63 โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัทเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นตามความต้องการบริโภค ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต
ขณะเดียวกันจะยังคงรักษายอดขายในกลุ่มอื่นๆให้คงอยู่ในระดับปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากในหลายอุตสาหกรรมยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึงแม้ว่าในประเทศไทยจะมีสถานการณ์ที่คลี่คลายไปมากแล้ว แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของไทยยังได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตเข้ามาได้ จึงยังเป็นแรงกดดันต่อกำลังซื้อภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่าจะรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 7.09% หลังจากที่ 9 เดือนแรกของปี 63 สามารถทำได้ในระดับดังกล่าวแล้ว โดยบริษัทยังคงจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการที่จะใช้ระบบการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า(Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยเหลือในการจำหน่ายสินค้าด้วย
"ปกติทุกๆปีเราก็จะตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 10-15% ต่อปี แต่ในปี 64 ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมากจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ทำให้บางอุตสาหกรรมชะลอตัวและฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า แต่เราก็ยังคงตั้งเป้าที่จะมีการเติบโต โดยไปเน้นการบุกตลาดและอุตสาหกรรมที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง ในขณะเดียวกันยังคงรักษาปริมาณการขายในอุตสาหกรรมอื่นๆไม่ให้ลดลงด้วย"นางสาวยุวดี กล่าว