นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 64 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยจะใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาทเพื่อซื้อหนี้เสียจากธนาคารพาณิชย์เข้ามาบริหารในพอร์ต ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อเพิ่มเป็นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้พอร์ตบริหารหนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าจะสามารถเรียกเก็บหนี้ได้ดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาหลังจากสถานการณ์โควิดในประเทศคลี่คลายลงไปมากแล้ว ในขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจะซื้อหนี้เสียมูลหนี้อีกกว่า 7 พันล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์หลายราย คาดว่าจะทยอยสรุปภายในปลายปีนี้ทั้งหมด จากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 63 บริษัทซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารในพอร์ตคิดเป็นมูลหนี้กว่า 2,947 ล้านบาท
ส่วนรายได้ทั้งปี 63 บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 50% หลังจากที่ในช่วง 9 เดือนแรกสร้างการเติบโตของรายได้รวมแล้วกว่า 58% มาอยู่ที่ 378.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/63 บริษัทมีพอร์ตมูลหนี้คงค้างอยู่ที่กว่า 53,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกันมากกว่า 35,000 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกันราว 15,000 ล้านบาท เป็นต้น
นายสุขสันต์ กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารออมสินประกาศร่วมทุนกับ บมจ.ศรีสวัสดิ์ (SAWAD) เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถดอกเบี้ยต่ำ 18% นั้น คาดว่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโดยรวม ทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันอาจจะทำให้มีหนี้เสียเกิดในระบบมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทฯจะสามารถเข้าไปซื้อหนี้เสียมาบริหารได้มากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการย้ายหุ้น CHAYO เข้ามาซื้อขายในกระดานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเตรียมความพร้อม คาดว่าจะสามารถส่งข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หากไม่มีข้อผิดพลาดเชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติภายในปีนี้