นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ. ปตท. (PTT) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินค่ามาตรฐาน และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงประสานความร่วมมือระหว่างบริษัทในกลุ่มเพื่อร่วมกันผลิตและจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีค่ากำมะถันต่ำเฉลี่ย 10 PPM ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 5 เท่าเป็นกรณีพิเศษ ผ่านคลังน้ำมันพระโขนงและสถานีบริการน้ำมัน โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมกว่า 400 สถานี รวมทั้งจ่ายให้กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานราชการ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.63-28 ก.พ.64 ซึ่งเป็นช่วงที่มักจะมีค่า PM 2.5 สูงเกินกว่ามาตรฐาน คาดการณ์ว่าปริมาณการจ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 ล้านลิตรต่อเดือน
ทั้งนี้ การเปลี่ยนจากน้ำมันดีเซลพื้นฐานยูโร 4 มาเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกำมะถันต่ำ ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ลดลง 19-21% และควันดำลดลง 19-40% เมื่อเทียบในสัดส่วนไบโอดีเซลที่เท่ากัน (จากผลการทดสอบของสถาบันนวัตกรรม ปตท. ในรถกระบะรุ่นเก่าอายุ 8 ปี และรถกระบะรุ่นใหม่อายุ 3 ปี)
กลุ่ม ปตท. มุ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ตลอดจนบูรณาการแผนการลงทุนของโรงกลั่นในกลุ่ม เพื่อขยายขีดความสามารถการผลิตน้ำมันคุณภาพมาตรฐานกำมะถันต่ำกว่า 10 PPM หรือ เทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 ให้สอดคล้องกับนโยบายปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขพลานามัยที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย