(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์อิงขาลงคล้ายภูมิภาคกลับมากังวลโควิดสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 19, 2020 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงอ่อนตัวลง คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบราว -0.4 ถึง -0.5% หลังจากกลับมากังวลปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐที่ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดรัฐนิวยอร์กสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งส่งผลให้ตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนร่วงลงราว 340 จุด

ส่วนบ้านเรา ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากรัฐสภารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับทั้งของฝ่ายค้านและรัฐบาล ซึ่งมีสาระสำคัญคือการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ น่าจะช่วยลดความตึงเครียดทางการเมืองได้บ้าง แต่ก็ยังต้องจับตาการชุมนุมทางการเมืองในช่วงต่อไป และการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญจะออกมาในรูปแบบใด

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ, การทบทวนน้ำหนักการลงทุนของฟุตซี่ (FTSE Rebalance) ที่จะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ และท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าในวันพรุ่งนี้ด้วย และยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต่อไป

พร้อมให้แนวนรับ 1,348-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,365 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,438.42 จุด ลดลง 344.93 จุด (-1.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,567.79 จุด ลดลง 41.74 จุด (-1.16%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,801.60 จุด ลดลง 97.74 จุด (-0.82%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.21 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 99.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 83.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.97 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ลดลง 8.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.96 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 พ.ย.63) 1,364.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.78 จุด (-1.09%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,155.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พ.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 พ.ย.63) ปิดที่ 41.82 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 พ.ย.63) อยู่ที่ 1.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.32 อ่อนค่าจากวานนี้ตามทิศทางภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 30.25-30.40
  • ครม.ส่งเรื่องต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวกลับมหาดไทยตอบคำถามคมนาคม "อนุพงษ์" ยืนยันเสนออนุมัติใหม่ "บีทีเอส" ชี้ค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย มีผลศึกษาความคุ้มค่า พร้อมมอบส่วนแบ่งเข้ารัฐ เดินหน้าเปิดส่วนต่อขยายถึงคูคต 16 ธ.ค.นี้ "อัศวิน" ชงรัฐบาลของบจ่ายค่าเดินรถ 8 พันล้าน
  • กนง.คงดอกเบี้ย 0.5% ชี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแต่ยังเปราะบาง กังวลบาทแข็งเร็ว เตรียมออกมาตรการดูแลพรุ่งนี้ ขณะที่ "นักค้าเงิน-ผู้นำเข้า" ปรับพอร์ตล่วงหน้า ดักมาตรการแบงก์ชาติ กดค่าเงินบาทอ่อนค่า ทันทีแตะ 30.29 บาทต่อดอลลาร์ ต่างชาติโหมซื้อหุ้น-ตราสารหนี้กว่า 7 พันล้าน ศบศ.อัดแพคเก็จดึงนักลงทุนระยะยาวหวังเงินหมุนเวียน 3 หมื่นล้าน
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯชี้สัญญาณบวกตลาดฟื้นตัวปี 64 รับความเชื่อมั่นผู้บริโภคไต่ระดับ ผนวกแรงหนุนมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจภาครัฐ อานิสงส์ "ดอกเบี้ยต่ำ" พร้อมกลยุทธ์ราคาโหมโปรโมชั่นหนักชิงลูกค้า ขณะยอดโอนไตรมาส 3 ขยายตัว 17.1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า คาดสิ้นปีแตะ 3.51 แสนหน่วย มูลค่า 8.6 แสนล้าน ด้านโครงการใหม่เปิดตัวลดลงเหลือ 7.1 หมื่นหน่วย ด้านคอนโดวูบ 50% สวนทาง "แนวราบ" ทาวน์เฮ้าส์-บ้านแฝด ราคา 2-5 ล้านความนิยมพุ่ง
  • ธุรกิจสายการบินอ่วม ซมพิษโควิดไม่หาย ผลประกอบการไตรมาส 3 โงหัวไม่ขึ้น บาดเจ็บถ้วนหน้า 'บางกอกแอร์เวย์ส' รายได้วูบ 86.5% ขาดทุน 1,585.1 ล้าน 'นกแอร์' ทำผู้ถือหุ้นใหญ่ขาดทุนเพิ่ม 134% กว่า 1,400 ล้าน ตามติด 'ไทยแอร์เอเชีย' รายได้ลดลง 75% เหลือ 2,403 ล้านบาท 'บินไทย' หนักสุด ขาดทุนยับ 21,531 ล้าน
  • ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ต.ค.63 ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 33.2 แต่ท่องเที่ยว-ภาคเกษตรยังติดลบ ห่วงการเมืองรุนแรงกระทบการบริโภค ด้าน S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ BBB+ และมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ธปท.เตรียมชี้แจงสถานการณ์ค่าเงินบาทในปัจจุบันที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ก่อนจะออกมาตรการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้ายไม่ให้ส่งผลต่อค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วมากจนเกินไป ธปท.คาดจะได้เห็นมาตรการชัดเจนออกมาในสัปดาห์หน้า

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7.40 บาท เป็น 1 ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการควบรวมของ CP-Tesco จากการมีช่องทางขายเพิ่มขึ้น คาดว่า CP จะขยายสาขาเครื่องดื่มใน Tesco ซึ่ง TACC จะได้รับอานิสงส์ รวมถึงการขายเครื่องดื่มโถกดใน Lotus Express และมีโอกาสเป็น Supplier ให้ 7-11 ในกัมพูชา คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังโควิด-19 คลี่คลาย โดยยังไม่ได้รวมทั้ง 2 ปัจจัยไว้ในประมาณการซึ่งเป็น Upside ทั้งกำไรและราคาเป้าหมาย ด้านราคาหุ้นที่พักฐานช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ Upside เปิดกว้างขึ้น
  • LH (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 9.1 บาท เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในแถวที่สอง ขณะที่ราคาหุ้นยังมีความล้าหลัง SET index มากถึง 8% ในขณะที่บริษัทมีการแบ่งกระจายความเสี่ยงรายได้ธุรกิจอื่นที่ดีกว่าตัวอื่นๆ
  • BGC (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า Bloomberg Consensus 14.40 บาท ราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกหลังจากยกเลิกการเพิ่มทุนซื้อกิจการที่ขาดทุน ขณะที่ล่าสุดไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 156 ล้านบาท +96%QoQ, +94%YoY ฟื้นตัวหลังคลาย Lockdown ร้านค้ากลับมาเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามปกติ อุตสาหกรรมเบียร์ปรับตัวดีขึ้นจากเร่งผลิตชดเชยในช่วงที่ผ่านมา และยังได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซลดลง คาด Q4/63 ยังเติบโตได้ต่อในช่วงไฮซีซั่น
  • SC (เอเชีย เวลท์) "ซื้อ"เป้าใหม่ 2.90 บาท มีมุมมองเชิงบวกหลัง Q3/63 ผลงานโดดเด่น ทำให้ปรับประมาณการกำไรในปี 63 ขึ้นอีก 22% สะท้อนผลประกอบการ Q4/63 ที่คาดว่าจะยังมี Sentiment บวกต่อเนื่อง หนุนจาก Backlog ที่จะรับรู้ช่วงที่เหลือของปีนี้อีกราว 4,000 ล้านบาท ประกอบกับแผนเปิดโครงการใหม่ช่วยเพิ่มยอด Presales ให้เข้าเป้าทั้งปีและคาดปันผลปี 63 ที่ 0.18 บาท (Div.Yld.7.2%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ