นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 21,000-24,000 ล้านบาท ตามปริมาณการขายที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 410,000 ตัน โดยมองว่าราคายังคงเป็นทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการถุงมือยางที่ส่งผลให้ปริมาณการใช้ยางปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกันหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดความรุนแรงลงจะทำให้ความต้องการถุงมือยางลดลง แต่อย่างไรก็ตามก็จะทำให้ความต้องการใช้ยางล้อ กลับมาสูงขึ้นทั้งในอุตสากรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการบิน และอื่นๆอีก
"ในทิศทางราคายางที่เป็นขาขึ้นจะเป็นผลดีต่อบริษัทในการจำหน่ายที่ทำให้มาร์จิ้นปรับตัวดีขึ้น โดยเรายังคงมีมุมมองที่ราคายางจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ยางในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ และถุงมือยางที่มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าไปแล้ว 2-3 ปี ซึ่งเรามองว่าถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิดจะอยู่หรือไม่ก็ยังเป็นผลบวกกับเรา"นายชูวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ในปี 64 บริษัทจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามา คือ แผ่นรองในพื้นคอกของปศุสัตว์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปการซื้อเครื่องจักรในปลายปีนี้ด้วยงบลงทุนราว 240 ล้านบาท และจะใช้ระยะเวลาขนส่งและติดตั้งเครื่องจักรราว 8 เดือน โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายสินค้าได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 และคาดหวังรายได้ในปี 65 แตะระดับ 1,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทเตรียมตัวที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพอีก 2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะเข้ามาหนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคตด้วย
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะทำสถิติสูงสุดของปี โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัทจำหน่ายสินค้าล่วงหน้าไปทั้งหมดแล้ว และเป็นช่วงระยะเวลาขาขึ้นของราคายางจะส่งผลให้มาร์จิ้นในไตรมาส 4/63 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องด้วย ซึ่งทั้งปีบริษัทยังคงมั่นใจว่าจะมีรายได้แตะ 17,000 ล้านบาท และปริมาณการขายที่ 365,000 ตัน ตามเป้าหมายที่วางไว้
ในส่วนของเงินประกันการไฟใหม้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะได้เงินประกันการไฟใหม้กลับมาทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4/63 นี้