สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (16 - 20 พฤศจิกายน 2563) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 350,034.59 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 70,006.92 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 15% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของ ตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 63% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 219,257 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วน ใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 92,933 ล้านบาท และหุ้นกู้ ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,163 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB256A (อายุ 4.6 ปี) LB29DA (อายุ 9.1 ปี) และ LB24DB (อายุ 4.1 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ ละรุ่นเท่ากับ 19,203 ล้านบาท 14,860 ล้านบาท และ 11,572 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU274A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 1,100 ล้านบาท หุ้นกู้ของ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) รุ่น THANI20DC (A-) มูลค่าการซื้อขาย 1,031 ล้านบาท และหุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY211A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อ ขาย 830 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงประมาณ 1-2 bps.ในตราสารระยะยาว ด้านปัจจัยในประเทศ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี พร้อมประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 เริ่มฟื้นตัวจากมาตรการทางการเงิน และมาตรการทางการคลังที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ 3 มาตรการเพื่อ ดูแลค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 20 พ.ย.เพื่อช่วยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้กับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทย รวมถึงช่วยให้เงินทุนเคลื่อนย้ายมีความสมดุลมากขึ้น โดยเปิดให้คนไทยฝากเงินตราต่างประเทศได้ เสรี ปรับกฎเกณฑ์และกระบวนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ และการลงทะเบียนแสดงตัวตนเพื่อซื้อขายตราสารหนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา (16 พ.ย.63 ? 20 พ.ย.63) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ -5,283 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) -11,233 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) +6,849 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ -899 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (16 - 20 พ.ย. 63) (9 - 13 พ.ย. 63) (%) (1 ม.ค. - 20 พ.ย. 63) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 350,034.59 412,618.49 -15.17% 18,454,972.70 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 70,006.92 82,523.70 -15.17% 84,655.84 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 117.45 117.29 0.14% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.72 104.58 0.13% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (20 พ.ย. 63) 0.45 0.49 0.51 0.65 0.86 1.41 1.61 2.17 สัปดาห์ก่อนหน้า (13 พ.ย. 63) 0.47 0.51 0.52 0.67 0.88 1.42 1.62 2.18 เปลี่ยนแปลง (basis point) -2 -2 -1 -2 -2 -1 -1 -1