นายมานิตย์ กุปต้า กรรมการ บมจ. โพลีเพล็กซ์ (PTL) คาดว่า ในปีนี้ยอดขายจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 65-70 ล้านเหรียญ หลังจากราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับสูงขึ้น ซึ่งใน 3-6 เดือนข้างหน้า บริษัทมีแผนปรับราคาขายจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมทั้งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถแข่งขันได้
ทั้งนี้ ในส่วนของกำไรในปีนี้จะโตได้ดีกว่าปีก่อนจากราคาขายที่ปรับสูงขึ้น และบริษัทจะรักษาการเติบโตของกำไรในไตรมาสที่เหลือให้มีการเติบโตในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 50
อนึ่ง PTL แจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550 มีกำไรสุทธิ 186.71 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.95 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมเงินลงทุน 55-60 ล้านเหรียญในในช่วงไตรมาส 1 ปี 51 (เม.ย.-มิ.ย.) เพื่อนำไปก่อสร้างโรงงานในตุรกี และ ไทย อย่างละ 2 แห่ง ในการผลิตสินค้าแผ่นฟิล์มโลหะ และแผ่นฟิล์มอัดรูป โดยจะมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงินในไทย และ ตุรกี รวมทั้งเป็นการใช้จากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
"การขยายโรงงานดังกล่าวจะเป็นการขยายกำลังการผลิตที่มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่จะสูงขึ้น" นายมานิตย์ กล่าว
นายมานิตย์ กล่าวถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นว่า ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อบริษัท แต่ไม่ได้กระทบมาก โดยหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1% จะส่งผลกระทบกำไรลดลง 10 ล้านบาท แต่ทั้งนี้บริษัทได้มีการทำประกันความเสี่ยง รวมถึงการนำเข้าวัตถุดิบ
ปัจจับัน บริษัทมีสัดส่วนส่งออก 85% ไปยังยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนเหลือเป็นการขายในประเทศ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--