นายเศกธัช จงศิริวัฒน์ ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กองทรัสต์ HREIT ได้ทำการเปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน เพิ่มทุนครั้งที่ 2 จำนวนไม่เกิน 137.50 ล้านหน่วย พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไป โดยขณะนี้ได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่ราคาหน่วยละ 7.30 บาท
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมได้สิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ในอัตราส่วน 1 หน่วยทรัสต์เดิมต่อ 0.1956 หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อในวันที่ 16-20 และ 23-26 พฤศจิกายน 2563 และบุคคลทั่วไป จองซื้อวันที่ 16-20 และ 23-27 พฤศจิกายน 2563 ในราคาเสนอขาย 7.50 บาท/หน่วย ซึ่งทางกองทรัสต์จะทำการคืนเงินส่วนต่างให้กับผู้ลงทุนที่จองซื้อเป็นลำดับต่อไป
นายเศกธัช กล่าวว่า การเสนอขายหน่วยทรัสต์ HREIT ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประชาชนทั่วไป เนื่องจากความโดดเด่นของกองทรัสต์และการจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญยังเป็นผู้นำกองทรัสต์ ที่มีทรัพย์สินกว่า 90% ตั้งอยู่ในโซนของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และยังมีพื้นเช่าบางส่วนในจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการขนส่งไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเน้นลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่า ซึ่งมีอัตราการเช่าพื้นที่ (occupancy rate) ของกองทรัสต์ อยู่ที่ระดับ 94% สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว
ด้านนางสาวจารุชา สติมานนท์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวว่า ภายหลังจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในครั้งนี้ ประมาณการสินทรัพย์รวมของกองทรัสต์ HREIT จะเพิ่มขึ้นเป็น 11,250.94 ล้านบาท จากปัจจุบันกองทรัสต์มีมูลค่าสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 9,913.24 ล้านบาท
ดังนั้น จึงเชื่อว่าด้วยมูลค่าทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ และความเชี่ยวชาญในการลงทุนอสังหาริมทรพย์ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT ภายใต้กลุ่มบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA Group) จะเป็นเครื่องตอกย้ำความน่าสนใจและความเชื่อมั่นในผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับจากการลงทุนในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องอัตราผลตอบแทนนั้น หลังจากที่กองทรัสต์ HREIT มีการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในครั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลและเงินลดทุน (Total Distribution Yield) เพิ่มขึ้น เมื่ออ้างอิงจากประมาณกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งสอบทานโดยผู้สอบบัญชี และได้มีการประมาณการการจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนต่อหน่วย จำนวน 0.69 บาท
ประกอบกับศักยภาพของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT เข้าไปลงทุนมีความโดดเด่นเรื่องอัตราการเช่าพื้นที่ ในระดับสูงที่ 94% และทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ และศักยภาพของผู้เช่า ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับผลตอบแทนที่มีความมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว