นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด วี โกลบอล อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (WE-GLOBALEQRMF) เสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2563 เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการวางแผนการเกษียณและรับสิทธิประโยชน์สำหรับการลดหย่อนภาษีในปีที่ซื้อ ภายใต้เงื่อนไขการถือครองตามประกาศกรมสรรพกร
กองทุน WE-GLOBALEQRMF มีนโยบายลงทุนใน กองทุนหลัก Fundsmith Equity Fund บริหารจัดการโดย Fundsmith LLP ผู้จัดการกองทุนของประเทศอังกฤษ ที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในการคัดเลือกหุ้นรายตัว ที่มีปัจจัยพื้นฐานและคุณภาพดี และมีการลงทุนแบบระยะยาว (Long-term investor) รวมถึงการ ?ซื้อแล้วถือ? (Buy and Hold Strategy) เพื่อให้หุ้นสร้างมูลค่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จุดแข็งและความแตกต่างของ Fundsmith LLP ในการบริหารพอร์ตลงทุน เน้นการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความยั่งยืน และเติบโต สามารถต้านทานต่อสถานการณ์ที่มีความผันผวน โดยมีกลยุทธ์การคัดเลือกลงทุน 3 ข้อ ได้แก่ 1. เลือกบริษัทที่มีการเติบโตที่ดีมีคุณภาพ โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Return on Capital Employed) ในรูปแบบเงินสดอย่างสม่ำเสมอและยาวนาน สามารถสร้างอัตราการเติบโตของธุรกิจจากการนำกระแสเงินสดมา re-invest ได้สูง มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สามารถสร้างรายได้จากยอดขายปริมาณมากๆ ได้สูง ซ้ำๆ และคาดการณ์ได้
2.ในด้านการประเมินมูลค่าหุ้นมีการวิเคราะห์ราคาที่ดีบนแนวคิด ?Don?t Overpay? ด้วยการประเมินมูลค่าหุ้นจากการวิเคราะห์ Free Cash Flow Yield ในปัจจุบันที่คาดว่าจะสามารถเติบโตในอนาคตได้ 4-5 เท่า และ 3. หลักการ ?Do nothing? คือ ไม่เก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนในระดับสูง หรือหุ้นที่คาดว่าราคาลงทุนไปต่ำแล้ว ไม่เลือกจังหวะเข้าลงทุน (Market Timing) ไม่ขายหุ้นตามกระแสตลาด หากหุ้นที่ถืออยู่ยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และจะทำการขายหุ้นนั้น ๆ เมื่อปัจจัยพื้นฐานในการทำธุรกิจเปลี่ยน หรือเมื่อมีโอกาสทำกำไรที่ไม่ควรพลาด
ด้วยกลยุทธ์ลงทุนที่โดดเด่นทำให้ Fundsmith เป็นที่รู้จักจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนมาถึง กองทุน WE-GEQUITY (กองทุนเปิดที่มีนโยบายการลงทุนเหมือนกัน) ณ วันที่ 18 พ.ย. 2563 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.14%, ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.84% , ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 12.68% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 13.27% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index ซึ่งอยู่ที่ 3.37%, 17.09% , 10.85% และ 10.62% ตามลำดับ
"หลังจากการเลือกตั้งและได้ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ และข่าวการทดลองวัคซีนโควิด-19 ที่ได้ผลมากขึ้น ทำให้ทิศทางเศรษฐกิจและสินทรัพย์ต่าง ๆ เริ่มปรับตัวในเชิงบวก ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่รายงานออกมาก่อนหน้านี้ พบว่าภาคการผลิตและภาคการบริการปรับตัวขึ้น จากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวสูงกว่าระดับ 50% สะท้อนถึงแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้า ดังนั้น บลจ.วี จึงมองว่าตลาดหุ้นยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากปัจจัยหนุนด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลกที่ใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีการฟื้นตัว"นายอิศรา กล่าว