บมจ.อาร์เอส (RS) ปลุก "อาร์เอส มิวสิค" ฟื้นคืนชีพกลับมาสร้างตำนานบทใหม่ให้วงการเพลงอีกครั้ง กับ "RS MUSIC NEW ERA : OPEN YOUR MUSIC EXPERIENCE" พร้อมเปิดตัวศิลปินเลือดใหม่จาก 3 ค่ายเพลง RoseSound, Kamikaze และ RSIAM ภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ ?Music Star Commerce? จากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ศิลปินเพื่อสอดคล้องกับธุรกิจของกลุ่ม RS ในปัจจุบัน
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS เปิดเผยว่า อาร์เอส เป็นผู้บุกเบิกและผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่วัฒนธรรมความบันเทิงของไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ผ่านค่ายเพลงที่มีชื่อว่า 'โรสซาวด์? (RoseSound) ก่อนเปลี่ยนมาเป็น ?อาร์เอส โปรโมชั่น?, ค่ายเพลง ?กามิกาเซ่? (Kamikaze) ที่เจาะกลุ่มวัยรุ่น และค่ายเพลง ?อาร์สยาม? (RSIAM) ที่มาพร้อมคอนเซปต์ ?ดนตรีไร้ขอบ? จนได้รับการยอมรับในฐานะมิวสิคไอคอนแห่งวงการเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศไทย
ถึงแม้ปัจจุบัน RS จะมีรายได้หลักมาจากการทำธุรกิจคอมเมิร์ซ ด้วยการนำจุดแข็งของธุรกิจมีเดียและบันเทิงมาผสานเข้ากับธุรกิจคอมเมิร์ซ จนกลายมาเป็นโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งธุรกิจเพลงที่เป็นธุรกิจต้นน้ำ โดยปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และวันนี้อาร์เอส มิวสิค พร้อมแล้วที่จะกลับมาสร้างตำนานบทใหม่ให้วงการเพลงอีกครั้ง กับ 3 ค่ายเพลง RoseSound, Kamikaze และ RSIAM เพื่อเติมเต็มความรู้สึกให้คนไทยได้หายคิดถึงเพลงในแบบฉบับของ อาร์เอส รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเพลง
นายสุรชัย กล่าวว่า บริษัทฯ กลับมารุกหนักธุรกิจเพลงอย่างจริงจังอีกครั้ง พร้อมวางกลยุทธ์การดำเนินงานใหม่ เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่แตกต่าง โดยสร้างและต่อยอดธุรกิจ หรือ สร้าง ?สตาร์? ให้เป็น Business Partner ที่มีความเชื่อมโยงกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของกลุ่ม RS ซึ่งบริษัทฯ จะเป็นผู้บริหาร asset ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงผ่านระบบดิจิทัล, การบริหารศิลปินในค่าย, การขายลิขสิทธิ์เพลง รวมถึงการจัด event และ concert
อีกทั้งการทำโปรเจคร่วมกับ Partner ที่เป็นอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภค เพื่อทำให้เกิด Content ใหม่ๆ เช่น การทำ Project "RS X JOOX GENERATION JOOX" ที่นำเอาเพลงระดับตำนานของอาร์เอสมาให้ศิลปินที่อยู่ในกระแสปัจจุบันมาตีความใหม่ ซึ่งมีการเปิดตัวเพลงแรกไป และเตรียมจะปล่อยเพลงเพิ่มเติมในเดือนธ.ค.นี้
ส่วนต้นทุนการทำผลงานเพลง ได้แก่ การทำเพลง, เสื้อผ้า หน้าผม จะเป็นของศิลปินที่จะลงทุน บนการวิเคราะห์ของทีมงานอาร์เอส ซึ่งยืนยันว่าจะครอบคลุมรายได้ขั้นต่ำอย่างแน่นอน ทำให้ศิลปินจะไม่มีความเสี่ยงในการทำเพลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่าในปีหน้าเป็นต้นไป รายได้จากธุรกิจเพลงจะเติบโตมากขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากปัจจุบันที่มีรายได้อยู่ราวปีละ 200 ล้านบาท มาจากการแชร์, การรับชม (ยอดวิว), รายได้จากศิลปิน เป็นต้น ขณะที่หากเทียบเป็นสัดส่วนรายได้ของกลุ่ม RS มองว่าคงไม่ได้ขยับเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากสัดส่วนรายได้หลักยังมาจากธุรกิจคอมเมิร์ซที่ราว 65% และธุรกิจบันเทิง ประกอบด้วย เพลง, วิทยุ, โทรศัพท์ รวมอยู่ที่ 35% โดยธุรกิจเพลงคิดเป็น 7% ของธุรกิจบันเทิง แต่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 60%
"ถึงแม้ปัจจุบัน อาร์เอส จะมีรายได้หลักมาจากการทำธุรกิจคอมเมิร์ซ ด้วยการนำจุดแข็งของธุรกิจมีเดียและบันเทิงมาผสานเข้ากับธุรกิจคอมเมิร์ซ จนกลายมาเป็นโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งธุรกิจเพลงที่เป็นธุรกิจต้นน้ำ แต่เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ซึ่งการเปิดตัวศิลปินทั้ง 3 ค่ายเพลงในครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของธุรกิจเพลง โดยปีหน้ามีแผนออกเพลงใหม่เพิ่มอีกเท่าตัว ซึ่งจะเป็นสปริงบอร์ดให้รายได้รวมของธุรกิจของอาร์เอส กรุ๊ป เติบโตตามเป้าหมายอย่างแน่นอน" นายสุรชัย กล่าว
ด้านนายสุกฤช สุขสกุลวัฒน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจเพลง RS กล่าวเพิ่มเติมว่า การกลับมาของอาร์เอส มิวสิค ในครั้งนี้จะเปิดประสบการณ์กับดนตรีหลากหลายแนวที่ฟังได้ทุกเจเนอเรชัน ฟังครบจบทุกแนว ผ่าน 3 ค่ายเพลง 9 ศิลปินเลือดใหม่ ได้แก่ การยกระดับของ RSIAM (อาร์สยาม) 18 ปีแห่งวงการลูกทุ่งสู่ผู้นำ Mass Music ผ่านศิลปินรุ่นใหม่ โฬม อาร์สยาม, การกลับมาของค่ายเพลงในตำนาน RoseSound (โรสซาวด์) กับ 4 ศิลปินเลือดใหม่ ริศา, ติม, ดนุ มาร์ค, และมิวสิค ในแนวเพลง Trendy Music, ค่ายเพลงวัยรุ่น Kamikaze (กามิกาเซ่) กับแนวเพลง POP ผ่านเด็กรุ่นใหม่ ได้แก่ FRESHYBII, UTTER, KKP และ GRACY
ทั้ง 9 ศิลปินนอกจากจะมีความสามารถทางด้านร้องเพลง การ Performance ที่โดดเด่นแล้ว จุดที่สำคัญคือต่างก็มี Lifestyle ชัดเจน มีความเป็นตัวตนมี Character ต่อยอดในเชิงของการทำการตลาด และการสร้างฐานแฟนคลับ เพลงเป็นตัวเชื่อมเขากับกลุ่มคนดู คนฟัง ที่ติดตามผ่านช่องทาง Social Network ที่เชื่อมโยงกับฐานของ RS MUSIC ที่มีมากกว่า 100 ล้าน Social Reach ที่ติดตาม จึงคาดว่าจากการเปิดตัวในครั้งนี้จะทำให้เกิดกระแสการฟังและติดตามของทั้ง 9 ศิลปินได้เป็นอย่างดี